วิธีรักษาความสะอาดส่วนต่างๆของ LV

1. หนังและแคนวาส (Monogram, Taiga, Epi, Suhari, Utah, Matt, Garze, Exotic)
ลอง ใช้ครีมดูแลหนัง(ทุกประเภท ยกเว้น Cow Hide) กับแคนวาส ของที่ทางช็อปเค้าแนะนำจะเป็นของ LOEWE ครีมมิ้งค์ออย หาซื้อได้ที่เกษรช็อปอยู่ชั้น1 ราคาประมาณ 900 บาท ขนาด 250 ml. ช่วยดูแลและคงสภาพของหนัง เหมือนครีมมอยเจอร์ที่คนเราใช้ ให้หนังชุ่มชื้นไม่โค้งงอเพราะเมืองไทยร้อน ใช้ทุก 3 หรือ 6 เดือน เช็ดด้วยผ้าคอตต้อนแบบถุงผ้าของ LV รุ่นใหม่ จะช่วยเรื่องลบรอยได้บ้างแต่ไม่เน้นด้านนี้เป็นการบำรุงมากกว่า เช็ดเสร็จก็ผึ่งลมในห้องปกติ แล้วอย่าลืมทำซ้ำทุก 3 ถึง 6 เดือนครั้ง พร้อมให้กระเป๋าได้หายใจแบบผึ่งลมที่บอกสักวันสองวันแล้วเก็บเข้าที่พร้อม ถุงผ้าและดันทรงแค่นี้ก็มีกระเป๋าสวยๆ ไว้ใช้นานเป็น 10 ปี นะคะ

2. Natural Cow Hide (หูกระเป๋าและแถบกระเป๋าหนังอ่อนสีขาว-สปีดี้ประมาณนั้น)
ก่อนใช้กระเป๋าแนะวิธี ฉีดสเปรย์ Water resistant ได้กับทุกวัสดุ ทั้งหนัง หนังกลับแบบรุ่น MC Suede ที่จีเซลล์พรีเซนท์อยู่ หรือผ้า MC mini, denin ใช้ได้ครับลองทำแล้วแต่รู้สึกว่าต้องฉีดซ้ำถ้าอากาศร้อนแบบบ้านเราก็ทุก 4 เดือน ระวังการฉีดที่ต้องเว้นระยะห่างและการกระจายของละอองทั่วกันนะค่ะ ส่วนหน้าฝนก็ซ้ำหน่อยตามเห็นสมควรนะค่ะ กลับมาเรื่องเดิมหลังใช้ไปแล้วถ้าไม่ชอบผูกโบว์แบบสาวญี่ปุ่น(บางคนมองว่า ถนอมไปดูเวอร์ๆ) ก็ให้ใช้ Belt Band ที่เห็นจากรุ่น Keepall ที่ใช้ล็อคหูกระเป๋าสองข้างมาแทนจะสวยกว่า เวลาถือใช้ฝ่ามือจับตรงนี้แทนดูไม่จงใจแต่ก็รักษาได้ ราคาที่ช็อบก็น่าจะสักไม่ถึงสองพัน ยังไงใครทราบก็รบกวนฝากเช็ครารา Spare part ให้ด้วยค่ะ กลับมาที่ถ้าใช้แล้วมีรอยเปื้อน รอยดำที่มักมีมาให้ปวดหัวได้ง่าย ก็มียางลบที่ร้าน Used ที่ญี่ปุ่นใช้ ยังไม่เห็นเมืองไทยมีขาย นิ่มๆ มากครับ เหมือนมัชเมลโลเลย ลบถูๆ ไปแล้วไม่แตกค่ะหนังยังสวย ราคาไม่แพงแต่หาซื้อยากยังไงถ้าใครมีอยู่ก็แบ่งๆ เพื่อนๆนะค่ะ ดิฉันก็มีอยู่ก้อนึง ลองใช้แล้วก็ขาวขึ้นสัก 30-40 % แต่ไม่แนะนำทำบ่อยเพราะหนังจะสูญเสียความมันเงาแล้วจะแตกได้ ส่วยวิธีอื่นๆ แบบแช่น้ำหรือเช็ดใขปลาวาฬจะไม่ขาวนะครับแต่จะเปลี่ยนเป็นดำสนิทเท่ากัน มากกว่า ส่วนที่แนะนำอีกอย่างเห็นเพื่อนๆ ชอบทำกันคือซื้อสินค้าที่ร้านโชว์ไว้นานแล้วเพราะสีจะเป็นน้ำผึ้งกำลังสวย เลอะยากกว่าขาวๆ ที่เพิ่งส่งมา หรือใครมีตังค์มากๆ แบบพี่คนนึกที่รู้จัก ก็ซื้อมาเลยค่ะ ตากลมในห้องสัก 6 เดือนให้เข้มทั่วกับแล้วค่อยใช้ รับรองรอยดำขึ้นยาก

3. ซิปและวัสดุทองเหลือง หรือโลหะ
ใช้ ผ้าที่เขาขายตามร้านจีเวลลี่ จะเคลือบสารขัดเงาไว้ มีหลายราคา เฉลี่ยก็ 100-500 บาท เช็ดได้นานค่ะ ดิฉันชอบเช็ดแม่กูญแจค่ะ มันวาวแล้วสบายใจดี ส่วนแบบเป็นสูตรน้ำไม่ค่อยแนะนำนะคะ เพราะจะซึมเข้าส่วนข้างๆ เดี๋ยวเป็นด่างหมดสวยเอา

4. ผ้าบุ หนังกลับ และวัสดุที่เป็นผ้า
กระเป๋า พวกนี้จะมีกลิ่นอับง่าย รอยดำจากการใช้ และลอยเลอะพวกปากกา น้ำ ลิปสติก มีร้านรับซักแล้วกันค่ะ เพราะทำเองยากและไม่คุ้มอย่างเพื่อนคนนึงให้ซักแห้ง Novotel ทำปรากฎหนังที่กุ้นด้านข้างสีตกใส่ผ้า MC mini หมดราคาไปเลย มีร้านแนะนำค่ะ เขาสามารถซักรอยได้ ไม่ว่าจะมีหนังกุ้น โลหะประกอบ มีพลาสติก แถมผสมปะต่อขนมิ้งค์ ขนสัตว์ อะไรงี้เขาจะwrap แต่ละส่วน เลือกทำความสะอาด ใช้เทคนิคขั้นสูง นำยาสั่งโดยตรงจากยุโรป ราคาค่าบริการแพงสักหน่อย แต่ฝีมือดี บางรุ่นก็สามารถย้อมให้ผ้าดูใหม่ได้พวกกระเป๋า Hermes, Chanel บางรุ่น แต่ถ้าพวกผ้าที่มีลาย Jaquard แบบ Gucci ลายจีไขว้ หรือ Chanel Sport, MC mini ไม่ควรย้อมนะเพราะความเหลือบของลาย(ลองกลิ้งดูเหลือบของลายดูนะ) จะหายไป เพราะกระเป๋าผ้าของ Super Barand ส่วนมากกูว่าปลอมไม่ปลอมตรงนี้ มันจะมีความ 3 มิติ ตรงนี้ กลับมาที่ชื่อร้านแล้วกันเผื่อหลายคนกำลังมีปัญหา ร้าน Miracle ถ.พระราม4 ตรงข้ามสถานีรถไฟหัวลำโพง เยื้องโรงแรมบางกอก เซ็นเตอร์ ติดรถไฟใต้ดิน โทร 02-639-4980 แนะนำกันไป

4.PVC ที่บุช่องบัตรต่างๆ
อันนี้ลอก ตามอายุนะคะ ของจริงต้องลอกมั้ง มีคนว่างั้น ยังไงก็ใส่กันชื้นครับยืดอายุได้ และถ้าใช้หรือไม่ใช้ก็หากระดาษตัดขนาดพอดีกับช่องเสียบไว้ตลอดละกันเท่านี้ ก็ยืดอายุได้นาน แต่ถ้าลอกแล้ว ไม่ว่าจะแบบเหนียวรึไม่ก็ส่งช็อปซ่อมนะค่ะ ถ้ารุ่นๆ ใหม่หน่อยหรือบางรุ่น รบกวนสอบถามที่ทางพนักงานร้าน จะสามารถบุใหม่ฟรี แต่บางรุ่นนี่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายนะคะ ลองไปบุมาแล้ว โดยส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าเขามีเกณฑ์อะไร ยังไงบุในช็อปเท่านั้นนะค่ะ แม้เสียตังค์ รอนานแต่ว่ามันไม่ผิดสเปกนะค่ะ เดี๋ยวคนคิดว่าใช่ของก็อปนะค่ะ