(กดF5ถ้าคลิ้กไม่ขึ้น)พฤหัสผ่อนบัตร 0% ตลอดชีพมือ1มือ2เพียบ Kelly-Hermes Prada runway ดาราออสการ์ limited Chanel-Jumbo CoCo หลุยส์ scarf วิ้งคๆเป๋าถือถูกๆ accessories เพียบมีทุกแบรน Gucci โควต้า shopไทยถูกกว่าทั้งโลก Ferragamo Fendi Mulberry เบอเบอรี่

[Eddy]

รู้ไว้ Gucci กำลังจะกลับมาดังมาก ด้วยการปลุกกระแสไร้เพศ! ต้องรีบหามาถือ


Gucci จะกลับมาทวงบัลลังค์คืน


New Creative Designer - Alessandro Michele

รู้ไว้ Gucci กำลังจะกลับมาดังมาก ด้วยการปลุกกระแสไร้เพศ! ต้องรีบหามาถือ

เพราะnew season เปลี่ยน designer เป็น Alessandro Michele และโชว์ของเค้าตื่นเต้นนำความแปลกใหม่มาให้กับ Gucci ซึง่โชว์เค้าได้รับการยอมรับและดังมาก รับประกัน Gucci จะกลับมาฮิตแบบ fendi now เราจึงต้องรีบมี Gucci ราคาถูกจะได้ไม่ out ถือ classic แบบของเอ้ดดี้ไม่มีตกยุค รีบซื้อซะก่อนมันจะแพง เอาคลาสสิคไปตบคนที่ซื้อมาจาก รันเวย์ เราจะดูแพง

เพียงชั่วข้ามซีซั่น Alessandro Michele ก็ส่ง Cruise Collection 2016 ให้กลับมาอยู่ท็อปฟอร์มด้วยมุมมองที่ไม่เหมือนใครของเขาในฐานะดีไซเนอร์คนล่าสุดของ Gucci

“แรงบันดาลใจของผมมาจากหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งจากท้องถนน ของเก่า และเสื้อผ้าวินเทจ มันยากนะที่จะอธิบายว่าจริงๆ แล้วผมได้แรงบันดาลใจมาจากไหน” Michele หมายถึงเสื้อผ้าชายหญิงทั้ง 62 ลุคที่เป็นการผสมผสานสไตล์ของกุชชี่ยุค 1960 กับ 1970 บวกกับการตกแต่งและประดับประดาแบบ more is more โชว์นี้จัดขึ้นที่สตูดิโอกึ่งโกดังกลางมหานครนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นการยกระดับความสำคัญของครูสคอลเล็กชั่นของแบรนด์ยิ่งกว่าครั้งใดๆ โดยมีเซเลบริตี้ Dakota Johnson จาก Fifty Shades of Grey ดีไซเนอร์ Alexander Wang, Joseph Altuzarra และเหล่าเอดิเตอร์ระดับท็อปอีกมากมายมาร่วมชมด้วย

เปิดโชว์ด้วยนางแบบสาวเดินเข้ามาในสตูดิโอในชุดกระโปรงสั้นผ้าไหมพิมพ์ลายซิกแซ็ก (ลุคเดียวกับที่ใช้ในหนังสั้น พรีเซนเทชั่นของโชว์) สวมรองเท้าส้นสูงสีทองตกแต่งโลโก้ดับเบิล G กลิ่นอายวินเทจจัดๆ มีให้เห็นตลอดทั้งโชว์ตั้งแต่ชุดสูทกระโปรงจากยุคซิกซ์ตี้ส์ถึงซิลูเอตยาวพลิ้วไหวจากเซเว่นตี้ส์ ยังไม่รวมงานปักและแพตช์เวิร์กที่แทรกอยู่ในเกือบจะทุกดีเทล เช่น รูปผึ้งที่ปรากฏตั้งแต่ในออทั่มที่แล้ว เสือ แมลงปอ นก งู นกอินทรี และดอกไม้หลายชนิดที่แสดงถึงความสดใสและช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของแบรนด์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์แบรนด์นี้

“ความหรูหราในทุกวันนี้มันหมายถึงการโชว์การแต่งตัวที่ไม่เหมือนคนอื่น คล้ายๆ กับสาวเจ็ตเซต แต่แทนที่คุณจะท่องเที่ยวไปทั่วโลก คุณก็ท่องเที่ยวด้วยเสื้อผ้าของคุณ” ความคิดอันแตกต่างของ Michele นำมาสู่กระแสตอบรับอย่างท่วมท้นตั้งแต่คอลเล็กชั่นแรกของเขาที่ Gucci (Men Fall/Winter 2015) จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเมื่อครั้งเป็นดีไซเนอร์แอ็กเซสเซอรี่ทำให้เขาสามารถผสมผสานความแฟนตาซีลงบนรองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหมวกเบเรต์หรือแว่นจากซีซั่นที่ผ่านมา หรือผ้าโพกหัว ตุ้มหูระย้า แหวนโลหะตกแต่งคริสตัลที่เหล่าโมเดลสวมทุกนิ้ว เข็มกลัดดอกไม้ผ้าทูลล์ กิ๊บติดผมรูปช่อดอกไม้ในครูสนี้ รวมถึงรองเท้าส้นสูงผ้าซาตินสีหวานอย่างชมฟูโอลด์โรส เหลืองมะนาว เขียวพิสตาชิโอที่เรียงแถวกันมาเรียกความสดใสให้กับตู้เสื้อผ้าของสาวๆ

ไม่เพียงแต่มุมมองการตีความแฟชั่นที่ย้อนกลับไปหาสีสันและจิตวิญญาณแห่งความหรูหราฟู่ฟ่าของแบรนด์ Michele ยังนำเสนอรูปแบบการโชว์ที่สดใหม่ คือแทนที่จะเลือกใช้สถานที่ตระการตาสำหรับโชว์ครูสคอลเล็กชั่นเขากลับเลือกโกดังเล็กๆ บนถนน West 22nd ในย่าน Chelsea ที่แบรนด์เล็กๆ ในนิวยอร์กใช้โชว์กัน แต่ผลตอบรับนั้นเกินคาด ภาพกองทัพนางแบบเดินข้ามถนนมุ่งหน้าสู่รันเวย์ถูกพูดถึงและโพสลงในโซ-เชียลมีเดียมากที่สุด เชื่อได้เลยว่ามุมมองใหม่ของ Michele ต่อกุชชี่จะนำพลังงานใหม่ๆ มาสู่โลกแฟชั่นแน่นอน เพราะ “โลกทุกวันนี้กำลังเปลี่ยนไป และพวกเราจำเป็นต้องมีความกล้า” เขาทิ้งท้ายอย่างมั่นใจ

เตรียมรับซีซั่นใหม่ด้วยกระเป๋าสีสันสวยสด พร้อมดีเทลสุดฮิปปี้อย่างลายพิมพ์รูปดอกไม้ หนังปักคริสตัลและฮาร์ดแวร์รูปหัวเสือขนาดใหญ่ที่ถือแล้วไม่ซ้ำใครแน่นอน

Michele says :
“every single time we return it’s like the first time. It’s like a love affair. If we only have this opportunity for a month or a year, I don’t care.”
“I’m so happy because for me, every day I work is a new day. I don’t care what will be tomorrow. It’s incredibly beautiful to work on Gucci because I can translate all my passion—I can create the character I want. And I’m having a lot of fun.”


เพราะ Gucci ต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำดัง concept ที่ว่า :
"Gucci has always created attention and excitement through its innovative and distinctive products and collections as it has become Italy's most renowned fashion house and one of the most iconic and prominent luxury brands in the world. Alessandro Michele has "both the qualities and the vision necessary to bring a new contemporary perspective to Gucci and lead the brand into an exciting new creative chapter of its history."

ในที่สุดสิ่งที่ไม่คาดฝันจากคนที่ไม่มีใครคาดหวังก็เกิดขึ้นเมื่อ Alessandro โชว์ผลงานแรกที่บอกตรงๆว่าทำเราแปลกใจได้เหมือนกัน คือนางก็หยิบงานเก่า archives ของ Gucci มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวแดงสัญลักษณ์ของแบรนด์ ลายดอกไม้เก่าแก่ หรือแม้กระทั่งหมวกเบเรต์ที่นำกลับมาใช้แต่ดัดแปลงให้ดูทันสมัยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ขอบอกเลยว่าสวยซึ้งทอมบอยนิดนิด ไม่หวานมากเรโทรเล็กๆ แต่ก็ไม่วินเทจจ๋า แถมผสมความเป็น Preppy School นี่ยังไม่รวมถึงดีเทลโบว์ของเสื้อผ้าผู้ชาย หรือการนำเฟอร์มาใช้กับรองเท้าโลฟเฟอร์สุดคลาสสิก แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังคงไว้ซึ่งแบบฉบับต้นตำรับของแบรนด์ นี่แหละความสดใหม่ที่วงการแฟชั่นต้องการ ตอนนี้มันไม่ใช่อะไรใหม่ๆที่ฉาบฉวยแล้วนะคะ เพราะไฮแฟชั่นควรจะเป็นเรื่องของความสดใหม่










Captain America and Beyonce in Gucci บอกแล้วว่า ชุด Gucci คือ ดังมากกก (ชุด Beyonce คือ ครึ่งล้านน้ะจ้ะ)

เสื้อ Gucci by Eddy คืองาน 'Haute Couteur'

'Haute Couteur' คืออะไร??


โอต์ กูตูร์คือการออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูง มีไอเดียอะไรก็ยัดใส่ ลงไปในผลงาน กันแบบสุดๆ ใส่ได้ใส่ไม่ได้ในยุคนั้น ไม่สน คนออกแบบ ถูกกำหนด concept ของงานมาว่า ให้ออกแบบ Art Nuvo หรืออะไร ก็ต้อง ลื้อค้น แบบแฟชั่นเก่าๆ มาดูผ่านสายตา ส่วนงานอย่าง RTW ( ready-to-wear ) มันคงไม่ต้องพูด ก็คล้ายๆ ประมาณว่าชุดสำเร็จรูปบ้านเรา

หากถามว่าโครเป็นบิดาของ Haute Couture เขาบอกว่าก็ ชาร์ลส์ เฟรเดอริกด์ เวิร์ธ ( Charles Frederick Worth ) เองแหละจาก การมีเงินติด กระเป๋าแค่ 500 บาท และใช้แฟนของตน นางคือ Marie Vernet ทั้งใส่ชุด เดินอวดใครๆ ประมาณว่าเป็นแบบนางแบบเลย ท่านกูตูริเยร์ ( Couturier ) ได้รับความอุปถัมจากจักรพรรดินี เออเชนี แห่งปารีส จึงทำให้แฟชั่นของเขา โด่งดังมาก ร้าน House of Worth ของเขาผลิกกลับมาอีกครั้ง ตอนปี 2010 มี Giovanni Bedin เป็นคนออกแบบ ปัจจุบัน

การทำ โอต กูตูร์ เวลาและค่าแรงในการทำ เฉลี่ยๆปาเข้าไป ต่อชุดก็มากกว่า 200-250 ชั่วโมงการทำงาน แถมต้องวัดตัว แล้ววัดตัว อีกหลายๆหน ต่อชุดตัวอย่างเช่น ชุดไปงานโอต์กูตูร์ แบบใหม่ๆอย่าง 2010 ของ Chanel ที่มีกลุ่มร้านที่ทำ kit แต่ละชิ้นให้กับ Chanel ซึ่งหลายร้านย่อยนั้น chanel ก็ซื้อมาอยู่ในเครือกันเลย ซึ่งอธิบายง่ายๆ คือ งานชุดที่ทำโดยมือคน ไม่ว่าเย็บ ตัดด้วยเทคนิคพิเศษๆ จากช่างที่ผ่านการรับรองคุณภาพ ใช้วัตถุดิบซึ่ง ยอดเยี่ยมสุดๆ เขาบอกเป็นงาน แบบนี้

ในฝรั่งเศสเป็นข้อบังคบ ไม่ใช่ร้านปากซอยแถวบ้าน อยากจะตั้งร้าน มีชื่อหรูหราอย่างงี้ ก็ตั้งได้ มันมีกฏการได้มาคล้ายๆ มาตรฐาน ISO ประมาณนั้นแหละ เขาเรียกว่า สมาคมช่างตัดเสื้อชาวปารีส หรือ ชองเบรอะ แซงดิกาล เดอ ลา กูตูร์ ปาริเซียน ( Chambre Syndicale De La Couture Parisienne ) หากต่อปี ทำไม่ได้ ร้านก็ถูกปลดป้าย

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ ประกอบกันเป็นชุด ต้องทำกันจากมือใหม่ๆ ไม่ใช่ไปเดินแถว ตลาดทั่วไป แล้วเอามาแปะ คงต้องยอมรับว่า นี่แหละ spec เกรดงานเสื้อผ้าแฟชั่น ที่จะเป็น ระดับ โอต์ กูตูร์ ของ พวกฝรั่งเขา ซึ่งในปัจจุบัน ในปารีสมีเหลือนับร้านได้ไม่มาก ที่ดังๆมีระดับ มีน้อยเต็มทนเพราะทุนมันสูง รายได้จึงไม่ได้มา จากสินค้ากลุ่มนี้ แต่เป็นสินค้าอื่น


(ฝรั่งเค้าบอกว่า คนที่จะเป็นเจ้าของเสื้อ Haute Couteur ได้เนี่ย.. ไม่ใช่แค่มีเงินระดับ 100 ล้านนะ.. ต้องมีถึง 1,000 ล้านขึ้นไป เพราะเค้าจะรู้กันดีว่า... คนที่ซื้อเค้าจะซื้อไปเพื่อเก็บ มันเหมือนงานศิลปะที่เพิ่มค่าขึ้นทุกวัน... เสื้อผ้าแต่ละชิ้นจะเป็น handmade และใช้เวลาหลักร้อยชม.ในการทำ ขึ้นไป และ YSL ก้อได้รับเกียรตินั้น!!)






อ่านความรู้เรื่องHaute Couteur เพิ่ม --> http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=3544693







สวยงามทุกท่วงท่า ดูรุ่มรวยด้วยงาน Haute Couteur








เสื้อ Gucci มือ 2 สวยงามเลิศเลอ
Gucci clothing คืองาน Haute Couture ฝั่งอิตาลี ไม่เหมือนแบรนด์อื่นที่เสื้อหาง่าย ไป outlet ก็เจอ แบรนด์อื่นพอแบรนด์ติดลมก็ไปผลิตนอกยุโรป แต่ Gucci คือไม่ Gucci จะผลิตที่อิตาลีอย่างเดียว ดินแดนที่งานศิลป์ระดับ world class ประเทศที่บุกเบิกเทคนิคการทำกระเป๋าอันดับ 1ของโลก ค่าแรงงานผลิตแสนแพง แบบแบรนด์ฝรั่งเศสอย่าง LV/Chanel/Hermes ที่ใบไหนต้องใช้งานผลิตแบบ limited ต้องมาทำที่ Italy อย่าง Balenciaga แบรนด์จดทะเบียนเป็นของฝรั่งเศสก็จริง แต่เรียกว่าแทบทุ้กชิ้นมาทำที่ Italy หมด

เสื้อ Gucci จึงเลิศเลอ มือ 1 ซื้อมา 250 pound up (หมื่นห้า-มือ 1 มีเงินขนาดไหนก็หาซื้อไม่ได้ เมืองไทยไม่เอาเข้ามา)
1. Eddy's concept - ใส่เสื้อดูรุ่มรวยกว่าถือกระเป๋าเพาะคนจะคิดว่ากระเป๋าใบเดียวใช้ได้นาน แต่ใส่เสื้อแบรนด์หายากส์ ดูเกร๋ไกร๋ เหมือนแบบ รวยจิงเนอะถึงกล้าใส่เสื้อแบรนด์ อิอิอิ
2. งาน Haute Couture ที่บอกว่าเป็นงานที่ดีสุดต้องผ่านเกณฑ์ทุ้ก step จึงเป็นสมาชิก เข้าข่ายได้มันคืออะไรเหรอ?
หาคำตอบได้ที่นี่จร้า

อ่านความรู้เรื่องHaute Couteur เพิ่ม--> http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=3544693

3. Gucci กำลังมาทวงบัลลังค์คืนจร้า ต้องหาใส่ก่อนมันจะกลับมาดัง ปังๆๆอีก
4. Made in Italy ดียังไง? ทำไม 'Made in Italy' ถึงเชื่อมั่นได้ในทุกอย่าง และเหนือกว่า Made in France?
-Made in Italy หมายถึงแรงงานฝีมือขั้นเทพอันดับ 1 ของโลก ที่อัตราค่าแรงต่อชม.แพงระยับ งานยากส์ของแบรนด์ ฝรั่งเศส เช่น Louis Vuitton หรือ YSL ก็ยังต้องมาทำืั้ที่ Italy
-Made in Italy หมายถึง การไม่ใช้แรงงานเด็กโดยเด็ดขาดเพราะ เป็นสนธิสัญญาของประเทศที่เจริญแล้วที่ทำกับประชาคมโลก
-Made in Italy ยังมีสนธิสัญญากับประชาคมโลกว่าการย้อมสีต้องมาจากวัสดุธรรมชาติเท่านั้น (++ซึ่งทำยากมากนะ เพราะ มันต้องใช้วัสดุสีที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเท่านั้น เช่นใบไม้.. ใบไม้ เปลือกไม้ แล้วจะต้องเด็ดมาทั้งต้นมั้งกว่าจะย้อมได้ใบนึง แล้วใบไม้แต่ละใบ เปลือกไม้แต่ละเปลือกต้องให้สีเท่ากัน เพื่อให่กะเป๋าใบ มีที่สม่ำเสมอ++ และ ยังต้องมั่นใจว่า น้ำจากการย้อมจะถูกทำลายด้วยด้วยวิทีทางชีววิทยา ชะนั้นย้อม จนถึงทำลาย ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งกระบวนการ) ทำให้กะเป๋าในปัจจุบันต้องไปทำนอกอิตาลี เพราะอยากจะลี้ภัยจากสนธิสัญญาอันนี้... พอต้นทุนสูงขึ้น hi-end แบรนไหนๆ ต่างก็ต้องลดค่าใช้จ่ายตัวเอง


เก็บ Made in Italyคำนี้ไว้ หากใช้ไป ขายต่อราคาก็ไม่ตกเพราะเดี๋ยวนี้เค้าไม่ Made in Italy กันแล้ว


คลิ้กลิงค์ ไปดูรูปเพิ่ม --> http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=3595461











จำ เอาไว้ว่า... LV ไม่ได้มืออาชีพในการผลิต line เสื้อผ้า ..หลุยส์แค่ใช้ ความมีชื่อเสียงของการทำกระเป๋า มาต่อยอดผลิต เสื้อ แล้วขายในราคาแพงๆ.... LV ไม่ได้เกิดมาแล้วชำนาญอย่างกุชชี่ ที่ทำเสื้อมานาน อีกทั้งกุชชี่ถูกยกย่องในการ design จากมืออาชีพ มากกว่าเยอะ .. ขนาด Marc Jacob ที่เป็น Creative Director ของ LV ยังพูดเลยว่า “หลุยส์ วิตตอง ผลิต line เสื้อ เพียงต้องการ ให้ทัน trend ของแฟชั่น เท่านั้น.... หลุยส์วิตตอง เน้นแค่ การผลิตกระเป๋า ก็เพียงพอแล้ว ” ดูสิ ขนาด คน design หลุยยังยอมรับเองเลย (หลุยส็ขายเสื้อยืดแบบที่เอ้ดดี้ เอามาขาย น่ะ ไม่ต่ำกว่า หมื่นสองแน่ๆ!!)

[Eddy]

เสื้อ Gucci มือ 2 SIZE S (ผู้ชายไทย size S กับ M ใส่ได้มั่นใจ ฟันธง! )จาก shop Retail ที่อังกิด ( ชายไทยใส่ได้ถึง size M พลิกแผ่นดินหามา ราคาถูกขนาดนี้ หาให้ ตายไงก็หาไม่เจอ)


เอ้ดดี้อยากบอกว่า.... เสื้อผ้า brand น่ะ อาจจะขายยากมากใน sbn นะ คนในนี้ เลยไม่ค่อยเอามาขาย ยิ่งมือ1 ด้วยแล้วนะ ยิ่งขายยากกกก มือสองจะถุกกว่าเยอะ แต่แบบ...จากรูปใครจะรับประกันล่ะ ว่าสภาพมันจะเปนไง จิงมะ?? แต่เอ้ดดี้แคร์ที่ไหน (เพาะจิงๆ ซื้อ เพาะอยากใส่เอง ภาวนาไม่ให้คนซื้อ เพาะ จะได้ไม่รู้สึกผิดที่ เสียเงิยซื้อไป..อิ อิ อิ)

เสือ้ผ้า brand hi-end ต้องบอกว่ายังมี หลายระดับอีก นะ...

แบบ แรก- เสื้อยืด burberry (แบรนด์ แสน ฮิต ดังมาก ) มือ 1 อย่างต่ำ 7พัน ใน shop เมืองไทย โปโล เนี่ยไม่ต้องพูดถึง 13,400 !!!! มีเงิน เหรอ ก้อ เดินเข้า shop สิ ชอบตัวไหน ก็ จ่ายไปสิ ใน shop มีเปน ร้อยๆ พันๆ ให้เลือก

แบบสอง - brand hi-end ที่คุณมีเงินคุนก้อ อาจจะพอซื้อได้บ้าง อย่างเช่น prada เสื้อผ้าผู้ชายค่อนข้างเยอะ แต่ราคาก้อไม่ ธรรมดา ล่ะนะ แต่อย่าน้อยยก็พอมีให้ซื้อล่ะ



แบบ สาม - มี brand hi-end อีกประเภทนึง ที่ดังมาก และ คุนมีเงินขนาดไหน คุน ก็ ซื้อไม่ได้ เพาะใน shop เมืองไทย ไม่มี !!! เมืองไทยมีแต่แบบ dress หรูๆ ไปเลย และ หลัก หมื่นปลาย ถึงแสนไปเลย แม้ว่าออกไปแถบเอเซีย อาจจะพอหาซื้อได้บ้าง แต่อย่าคิดว่า จะได้ ราคาแบบตัวนี้ที่ เอ้ดดี้ เอามาให้ ดู บางทีการที่ผู้ชายคนนึงไปออกเดท เราก้ไม่เหนจะอยากใส่ไรหรูๆ ผู้ชาย ธรรมดา ใส่สีขาวกางเกง ยีนสื ก็ เท่ห์ แล้ว... ยีนส์ น่ะ ใส่ไร ก็ ได้ แต่ เสื้อยืดขาว ต้อง Gucci ของเอ้ดดี้ตัวนี้!!!!

นี่ไม่ใช่ เสื้อยืดขาวธรรมดาๆนะ Gucci มันทำมาจาก คอตตอน ที่ดีและทนทานที่สุดในโลก (แน่นอน Gucci ต้องนำเข้า คอตตอน จากที่อื่นที่ไม่ใช่ที่ อิตาลี) แต่การผลิตต้องเกิดที่อิตาลีเท่านั้น!!! จำไว้ว่า Gucci จะไม่มีวันลดค่าใช้จ่าย โดยเอาไปผลิตที่ ประเทศที่ค่าแรงถูกๆ Gucci จะควบคุนคุณภาพจาก อิตาลีเท่านั้น (นั่นเป้นสาเหตุให้ brand burberry ข้างบน ไม่มีทางจะสู้ได้) ถ้าลองมองดู ที่ซื้อ ตัวนี้ ใกล้ๆ นะ ... จะพบว่า มันเป็น เนื้อผ้าที่อาศัยการทอ แบบมืออาชีพ ที่เค้าจะเรียกว่า ‘knit’... ซึ่งการทอแบบนี้ จะใส่สบาย เพาะมี การระบาย ความร้อนออก การทอแบบนี้ จะเป้นการทำแบบมืออาชีพ มากกว่า เสื้อยืดผ้าขาว ปื้นๆ ธรรมดา.... นั่นเป็นสาเหตุให้ Chanel ขายเสื้อ แบบนี้ที่ราคา สองหมื่น

Design แบบไม่หลุดคอนซบแบรนด์โดย

เอ้ดดี้ซื้อมามือ 1 - 250 Pound (11,XXX) ***ต่อมาเลยจ้า โหดๆ ผ่อนได้ ขายโลดดดดดดด อิอิอิ***



จำ เอาไว้ว่า... LV ไม่ได้มืออาชีพในการผลิต line เสื้อผ้า ..หลุยส์แค่ใช้ ความมีชื่อเสียงของการทำกระเป๋า มาต่อยอดผลิต เสื้อ แล้วขายในราคาแพงๆ.... LV ไม่ได้เกิดมาแล้วชำนาญอย่างกุชชี่ ที่ทำเสื้อมานาน อีกทั้งกุชชี่ถูกยกย่องในการ design จากมืออาชีพ มากกว่าเยอะ .. ขนาด Marc Jacob ที่เป็น Creative Director ของ LV ยังพูดเลยว่า “หลุยส์ วิตตอง ผลิต line เสื้อ เพียงต้องการ ให้ทัน trend ของแฟชั่น เท่านั้น.... หลุยส์วิตตอง เน้นแค่ การผลิตกระเป๋า ก็เพียงพอแล้ว ” ดูสิ ขนาด คน design หลุยยังยอมรับเองเลย (หลุยส็ขายเสื้อยืดแบบที่เอ้ดดี้ เอามาขาย น่ะ ไม่ต่ำกว่า หมื่นสองแน่ๆ!!)

[Eddy]

[Eddy]