เอาวิธีป้องกันน้ำให้ได้ผล 100% สำหรับกระเป๋าผ้าและหนัง ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการที่หนังอมน้ำแล้วเปลี่ยนสี

[fhon]

สวัสดีค่ะ สาวกชาว SBN มีใครมีปัญหาเหมือนกับเราบ้าง

ใช้ Collonil Reiniger เช็ดให้คาวไฮด์ขาวขึ้นจากคราบมือที่มันดำ ๆ

พอดีไปได้ความรู้มาจากพี่แพทร้าน KA-POW ที่เซ็นทรัลฯ ลาดพร้าว เราเห็นเค้าเอา Soft Gum มาลบรอยเปื้อนก่อน และพี่เค้ายังบอกเลย ว่าพอเห็นว่าเปื้อนปุ๊ป รีบลบปั๊บออกหมดเลยแน่นอน แต่ถ้าคราบมันนานแล้วให้ลบก่อนด้วยยางลบ Soft Gum จากนั้นค่อยเอาพวกครีม หรือ Leather Soap เช็ดตาม เพราะเหมือนเป็นการเปิดหน้าผิวก่อน จากนั้นพี่เค้าก้อเอาเดลิเคท มาเช็ดๆถูๆ รอยเปื้อนบนแอร์เมส

พี่เค้าแอบกระซิปว่า วันนั้นเปิดบิลโดยที่ไม่รู้ตัวว่าปากกาหัวมันแตก หมึกเลยติดมือโดยที่ไม่รู้แถมไปจับกระเป๋าชาแนลที่จะส่งมอบให้ลูกค้า ปรากฎหมึกดันไปติดที่กระเป๋าเป็นรูปมือเต็มๆ ดีนะที่พี่เค้ารีบเอายางลบ Soft Gum ลบเลยรอยหมึกหายหมดจดเหมือนของใหม่

ทำให้เรารู้ว่า มียางลบ Soft Gum ติดตัวเบื้องต้นดีอย่างนี้นี่เอง


ทีนี้เราเลยเอา Soft Gum ถูที่คาวไฮด์ก่อน จากนั้นก้อใช้ Reiniger ฉีดลงบนฟองน้ำเมลามีนแล้วถูไปบนคาวไฮด์เลย


มันดูขาวขึ้นค่ะ แต่ต้องเช็ดให้ทั่วนะคะ เดี๋ยวขาวเป็นหย่อมๆ หนังอาจจะดูแห้งไปนี้สสส แต่พอเราทาครีม 1909 Leather cream หนังก้อดูไม่แห้งเหมือนตอนเพิ่งขัดค่ะ

แต่ LV ใบนี้ เราจะเคลือบ Nano coating ของ HYDROPHOBIA บริษัทฯ นำเข้า Collonil-Thailand นำเข้าค่ะ ระบุบนหน้ากล่อง 100% Water Proof

เห็นแล้วสะดุดตา ว่ามันจะกันน้ำได้ 100% และอยู่ได้นานตั้ง 6 เดือน แถมซื้อขวดเดียวทำกับกระเป๋า และรองเท้าได้อีกหลายคู่

ตอนนี้เค้าเปิดตัวจัดรายการอยู่ที่ 1,950 บาท เลยจัดมาลองเพื่อให้ได้รู้ว่าจริงดังคำร่ำลือแบบใน IG หรือเปล่า เริ่มจากกระเป๋าผ้า Herbag กับรองเท้า onitsuka Nippon Made มันเป็นรุ่นที่มีหนังกลับ และหนังเรียบ เลยไม่กล้าใช้ เพราะกลัวหนังกลับเละ


ภาพล่างนี้คือ หลังจากฉีด HYDROPHPBIA ไปแล้ว ลองทั้งหยดน้ำ เอาน้ำราดจนหมดแก้ว ที่ซูมเน้นให้เห็นหยดน้ำเพราะอยากให้เห็นว่าน้ำเป็นหยดๆ สีเงินอยู่บนวัสดุที่เราฉีด เหมือนบนใบบอลเวลามีน้ำกลิ้งอยู่เลยค่ะ





ทางออกของคนที่ชอบลาย Monogram แต่กลัวเปื้อน ยิ่งควรรีบใช้เลยค่ะ เพราะเค้าบอกว่า ยิ่งของใหม่เคลือบจะได้ผลลัพธ์ 100% เพราะหนังยังไม่เกิดความมันค่ะ

เดี๋ยวเคลือบ Monogram แล้วจะมารีวิวเพิ่มค่ะ

[fhon]

กลับมารีวิวต่อตามสัญญาค่ะ

หลังจากเอาโมโนแกรม มาทำความสะอาดคาวไฮด์ ด้วย Reiniger เรียบร้อยแล้ว เรามี Air Brush เป็นตัวช่วยลงมือพ่นสเปรย์นาโนโค้ทค่ะ เพื่อจะให้มั่นใจได้เคลือบแล้วทุกรูขุมขนจิงๆ คนที่ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะหัวฉีดเค้าเป็นสเปรย์แบบกดอยู่แล้วค่ะ
แต่ถ้าน้องเป๋าใบใหญ่ ก็อาจเมื่อยนิ้วได้ค่ะ เมื่อพ่นเสร็จแล้วเค้าบอกให้ทิ้งไว้ 24 ชม. ให้แห้ง

และแล้วเวลาผ่านไป จนครบ เราก้อเตรียมทั้งน้ำเขียว และน้ำเปล่ามาล้างเลยลองดู ขอทำตามคลิปของร้านสปาดังดูนะคะ
และแล้วผลลัพธ์ที่ได้ เป็นไปตามภาพเลยค่ะ คาวไฮด์เมื่อผ่านการโดนน้ำ ไม่มีการเปลี่ยนสีค่ะ เพราะน้ำจะไหลผ่านอย่างเดียว

ข้อสำคัญคือ จะต้องพ่นจนให้เปียกเลยนะคะ จะได้ชัวร์ ไม่ต้อง worry เลยว่าคาวไฮด์เมื่อโดน Hydrophobia nanocoating
แล้วจะเปลี่ยนสี เพราะว่ามันเปลี่ยนจิงๆ หนังนี่ดูเปียกเลย แต่พอผ่านไปแค่เพียง 3-4 นาที กลับมาสภาพเดิมเลยค่ะ
หมายความว่าก่อนเคลือบเป็นสีอะไร ทำแล้วก็เป็นสีแบบนั้นเลย จึงมั่นใจได้เลยค่ะว่าสีไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเค้าบอกว่ามันมีความ
โปร่งใสในตัวของมัน สามารถใช้ได้ทั้งหนังและผ้าทุกอย่าง ปล.ควรเป็นหนังใหม่ และจำเป็นต้องทำความสะอาดก่อนทำนาโนโค้ททุกครั้ง ห้ามบำรุงก่อนทำด้วยค่ะ

แต่หลังทำไปแล้วสามารถเคลือบบำรุงได้ตามปกติ เพราะว่านาโนโค้ทนี่ไม่ได้ไปปิดกั้นผิวของหนัง แต่กลับทำให้หนังหายใจได้ตามปกติ
สิ่งที่มันเกลียดคือ น้ำค่ะ วันนี้ง่วงแล้ว เดี๋ยวไว้เทสต์กับใบอื่นจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ดูต่อค่ะ

[fhon]

ใบนี้ทดลองกับ Neverfull เท่าที่ทดสอบมาแล้วต้องพ่นซ้ำ 3 รอบ คือพ่นรอบแรกให้แห้ง ประมาณ 2 - 3 นาที พ่นซ้ำอีกสักที (เพื่อให้เปียก Soak) ตามที่เค้าบอก

วิธีที่ดีที่สุดคือ การใช้กับ Air brush จะช่วยให้ประหยัดน้ำยา และเพิ่มความทั่วถึงได้ในจุดที่ต้องการมากกว่า เพราะแรงของปั๊มลมจะใช้ทดแทนการอัดแก๊ส



กับกระเป๋าผ้าของเรา ผ่านการใช้งานมาพอสมควร 555 หนังสีเปลี่ยนไปแล้ว แต่อยากให้มันกันน้ำเหงื่ออ่ะ

ปัญหาของกระเป๋าผ้า คือ ผ้ามีช่องว่างมากกว่าหนัง การพ่นจึงค่อนข้างที่จะต้องละเอียดมาก ๆ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพ่นซ้ำอีก ตามภาพพ่นซ้ำ 3 ครั้ง






เนี่ยค่ะ ผู้ช่วยชั้นดีของเรา ทำให้งานง่ายขึ้นมาก ขอยกความดีความชอบให้ Air Brush ของเรา




กว่าจะได้ภาพนี้มา คือ พ่น 3 รอบนะคะ





ที่ขาดไม่ได้เลย ขอยกความดีความชอบให้ HYDROPHOBIA NANO COATING
และชุมชนแห่งนี้ SBN