0% ลด ผ่อน Chanel Boy ผ้าพันคอ Prada มิแรนด้า LV limited Prada นางแบมิแรนด้า กะเป๋าเอกสาร prada ขายขาดทุน กะเป๋าถือ กะเป๋าเดินทาง และ wallet Gucci Mulberry Fend Tods FEndi เยอะแยะ เสื้อ burberry รองเท้าก็มี accessories เพียบ

[Eddy]

>>>เป็นอันแน่นอนแล้วว่า Creative Director คนใหม่ของ LV จะได้ Creative Director ของ Balenciaga คนนี้ >> Nicholas Ghesquiere <<
ซึ่งได้เป็นที่ต้องตาต้องใจของ LV และจะเขยิบเข้าไปแทน Marc Jacob ซึ่งแน่นอนแน่นอนว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา ด้วยสไตล์ของ >> Nicholas Ghesquiere <<
แน่นนแนว่าจะทำให้ LV ดังขึ้นอีกมากๆ เอ้ดดี้ก็คิดว่่าคงจะกลับไปรัก LV new design ในไม่ช้านี้ <<<












Breaking News: Nicolas Ghesquiere Named Artistic Director at Louis Vuitton
















-คุณ ลูกค้าต้องเข้าใจก่อนว่า... เจ้าของแบรนด์นี้ เป็นศิลปิน ชื่อ Cristóbal Balenciaga สเปนที่มาโด่งดังอย่างมากที่ ฝรั่งเศส... ซึ่งมี designer ไม่เยอะหรอกนะ ที่จะประสบความสำเร็จในดินแดนที่คนเจ๋งจิงๆเท่านั้นถึงจะเข้ามา และโด่งดังได้ขนาดนี้

-จำ ไว้ว่า Balenciaga มี concept แบรนด์มาจาก ความล้ำเหนือกาลเวลา Futuristic + ความ minimal ที่เรียกว่า น้อยแต่ครบ -minimal แบบน้อยแต่ครบ นี่ มันคิดยากมากกว่า ออกแบบปะโคมใส่ตู้มๆๆนะ

-กะเป๋าทุกใบของ Balenciaga ต้อง made in Italy เท่านั้น แม้ว่าจะเป็น brand ฝรั่งเศสก็ตาม อิตาลีประเทศที่มีช่างฝีมือระดับเทพ และดีที่สุดของโลก / ค่าแรงแพงที่สุด / เทคโนโลยีการทำกะเป๋าด้วยเทคนิคพิเศษ และล้ำที่สุด

-เอ้ดดี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนอิตาลี ที่เป้นกูรู ของ Balenciaga เวลาเค้าอ่านชื่อแบรนด์ เอ้ดดี้ฟังแล้วจะอมยิ้ม แล้วคิดเสมอว่า ฟังแล้วมันดูสง่างาม อย่างไม่มีที่ติจริง ๆ 'บา-เลน-เซีย-กา' โดยเค้าจะเบาคำว่า 'เลน' แต่ไปเน้นคำว่า 'เซีย' ได้เพราะเสนาะหูมากๆ

-กะเป๋าทุกใบต้องมีกระจก

-เค้าเป็นต้นกำเนิดในคอนเซบที่ว่าซิบปิดเปิดต้องมีสายพู้ห้อยเพื่อให้หยิบจับได้สะดวก แค่ดึงสายพู่ ไม่ต้องจับหัวซิบ (ซึ่งLV รุ่นหนัง imprimt ที่ออกมาทีหลัง เอาแนวคิดนี้มาเลียนแบบ)

-กะเป๋า Balenciaga เริ่มต้นมาจากหนังแพะ

-ลาย กะเป๋าเกิดจากการนำหนังมาทุบๆๆ เพื่อให้ เกิดลาย ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องระวังมาก เพาะมันขึ้นลายอยู่แล้ว... และจะต้องเป็นการทุบจากฝีมือมนุษย์เท่านั้น!

-เค้าเป็นต้นกำเนิดในความคิดที่ว่า กะเป๋าทุกใบจะต้องมีแผ่นหนัง original แนบมาเป็นแผ่น สี่เหลี่ยมเล็ก เพื่อให้ผู้ใช้ ทราบว่า ตอนซื้อใหม่ๆหนังของมัน มีสีเป็นอย่างไร คนใช้จะได้ไม่โดนหลอก ว่ามือ 1 หรือ มือ 2 (แล้ว หลายแบรนด์ก้มาเลียนแบบ concept นี้ ของ Balenciaga ... บอกแล้วว่า เค้าล้ำ Futuristics)...


ลูกค้าที่เป็นแฟนพันธืแท้ของ Balenciaga : the Queen of Spain, the Queen of Belgium, the Duchess of Windsor, Princess Grace of Monaco, all regularly recognized in the press as the best-dressed women in the world.


ในปี 1958 Balenciaga ได้เข้ารับเหรียญ อิสริยาภรณ์ (Ordre national de la Légion d'honneur) ที่ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของฝรั่งเศส อันเป็นพิธีสืบต่อมาตั้งแต่สมัย จักรพรรดิ์ นโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศส!




Balenciaga กล่าวไว้ว่า นักออกแบบชั้นสูง (Couturier) จะต้องเป็นทั้งสถาปนิกในการออกแบบ, ปฏิมากรสำหรับงานปั้น, จิตรกรสำหรับสี, นักดนตรีเพื่อความสามัคคีและนักปรัชญาสำหรับการควบคุมอารมณ์

(การควบคุมอารมณ์ไม่ได้ของ John Galliano แห่ง Dior ทำให้พิสูจน์ได้ว่า ข้อความนี้เป็นจริง... เก่งยังไง John Galliano ก้เป็นนักออกแบบชั้นสูง (Couturier) ไม่ได้


Coco Chanel เคยกล่าวชื่นชม Balenciaga ว่า Balenciaga เป็นนักออกแบบชั้นสูง (couturier) เพียงคนเดียวในโลกที่ สามารถ ออกแบบ, ตัด, ประกอบและเย็บชุดด้วยกันทั้งหมดด้วยตัวเอง

[Eddy]

-คุณ ลูกค้าต้องเข้าใจก่อนว่า... เจ้าของแบรนด์นี้ เป็นศิลปิน ชื่อ Cristóbal Balenciaga สเปนที่มาโด่งดังอย่างมากที่ ฝรั่งเศส... ซึ่งมี designer ไม่เยอะหรอกนะ ที่จะประสบความสำเร็จในดินแดนที่คนเจ๋งจิงๆเท่านั้นถึงจะเข้ามา และโด่งดังได้ขนาดนี้

-จำ ไว้ว่า Balenciaga มี concept แบรนด์มาจาก ความล้ำเหนือกาลเวลา Futuristic + ความ minimal ที่เรียกว่า น้อยแต่ครบ -minimal แบบน้อยแต่ครบ นี่ มันคิดยากมากกว่า ออกแบบปะโคมใส่ตู้มๆๆนะ

-กะเป๋าทุกใบของ Balenciaga ต้อง made in Italy เท่านั้น แม้ว่าจะเป็น brand ฝรั่งเศสก็ตาม อิตาลีประเทศที่มีช่างฝีมือระดับเทพ และดีที่สุดของโลก / ค่าแรงแพงที่สุด / เทคโนโลยีการทำกะเป๋าด้วยเทคนิคพิเศษ และล้ำที่สุด

-เอ้ดดี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนอิตาลี ที่เป้นกูรู ของ Balenciaga เวลาเค้าอ่านชื่อแบรนด์ เอ้ดดี้ฟังแล้วจะอมยิ้ม แล้วคิดเสมอว่า ฟังแล้วมันดูสง่างาม อย่างไม่มีที่ติจริง ๆ 'บา-เลน-เซีย-กา' โดยเค้าจะเบาคำว่า 'เลน' แต่ไปเน้นคำว่า 'เซีย' ได้เพราะเสนาะหูมากๆ

-กะเป๋าทุกใบต้องมีกระจก

-เค้าเป็นต้นกำเนิดในคอนเซบที่ว่าซิบปิดเปิดต้องมีสายพู้ห้อยเพื่อให้หยิบจับได้สะดวก แค่ดึงสายพู่ ไม่ต้องจับหัวซิบ (ซึ่งLV รุ่นหนัง imprimt ที่ออกมาทีหลัง เอาแนวคิดนี้มาเลียนแบบ)

-กะเป๋า Balenciaga เริ่มต้นมาจากหนังแพะ

-ลาย กะเป๋าเกิดจากการนำหนังมาทุบๆๆ เพื่อให้ เกิดลาย ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องระวังมาก เพาะมันขึ้นลายอยู่แล้ว... และจะต้องเป็นการทุบจากฝีมือมนุษย์เท่านั้น!

-เค้าเป็นต้นกำเนิดในความคิดที่ว่า กะเป๋าทุกใบจะต้องมีแผ่นหนัง original แนบมาเป็นแผ่น สี่เหลี่ยมเล็ก เพื่อให้ผู้ใช้ ทราบว่า ตอนซื้อใหม่ๆหนังของมัน มีสีเป็นอย่างไร คนใช้จะได้ไม่โดนหลอก ว่ามือ 1 หรือ มือ 2 (แล้ว หลายแบรนด์ก้มาเลียนแบบ concept นี้ ของ Balenciaga ... บอกแล้วว่า เค้าล้ำ Futuristics)...


ลูกค้าที่เป็นแฟนพันธืแท้ของ Balenciaga : the Queen of Spain, the Queen of Belgium, the Duchess of Windsor, Princess Grace of Monaco, all regularly recognized in the press as the best-dressed women in the world.


ในปี 1958 Balenciaga ได้เข้ารับเหรียญ อิสริยาภรณ์ (Ordre national de la Légion d'honneur) ที่ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของฝรั่งเศส อันเป็นพิธีสืบต่อมาตั้งแต่สมัย จักรพรรดิ์ นโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศส!




Balenciaga กล่าวไว้ว่า นักออกแบบชั้นสูง (Couturier) จะต้องเป็นทั้งสถาปนิกในการออกแบบ, ปฏิมากรสำหรับงานปั้น, จิตรกรสำหรับสี, นักดนตรีเพื่อความสามัคคีและนักปรัชญาสำหรับการควบคุมอารมณ์

(การควบคุมอารมณ์ไม่ได้ของ John Galliano แห่ง Dior ทำให้พิสูจน์ได้ว่า ข้อความนี้เป็นจริง... เก่งยังไง John Galliano ก้เป็นนักออกแบบชั้นสูง (Couturier) ไม่ได้


Coco Chanel เคยกล่าวชื่นชม Balenciaga ว่า Balenciaga เป็นนักออกแบบชั้นสูง (couturier) เพียงคนเดียวในโลกที่ สามารถ ออกแบบ, ตัด, ประกอบและเย็บชุดด้วยกันทั้งหมดด้วยตัวเอง







All About Balenciaga


แหมเพิ่งไปอ่านบทความในหนังสือแฟชั่นแล้วอดปลื้มแทนแฟนของ Balen ตังยง เลยรีบนำ Balen มาขาย จัดไป ไม่ให้เสียเวลา

-Balen โด่งดังมากจากความเป็น minimal ตัวยง ตัด-ลด-ทอน จนได้งานศิลปะที่เปี่ยมไปด้วยฟังก์ชั้นการใช้งานครบ แต่ใช้งานได้จริงในโลกมนุษย์

-เป็นแบรนด์ สเปนที่มาโด่งดังในบ้านฝรั่งเศส จนได้ตำแหน่ง 1 ใน 3 ของสมาชิก Haute couture house ที่ยืนยงตลอดกาล (Haute couture คือรางวัลที่มอบแก่การเป็นผู้สร้างสรรค์งานศิลปะชั้นสูง และจะมีการทบทวนการทุกปี เพื่อให้มั่นใจว่า แบรนด์ต่างๆเหล่านี้ สมควรแก่การเป็นผู้สร้างสรรค์งานศิลปะชั้นสูง (Haute couture) จิงๆ ขอบอกว่า Hermes, Louis Vuitton แบรนด์ฝรั่งเศสแท้ๆก็ไม่เคยได้ ส่วน Chanel ก็เพิ่งได้เอง)

-Diana Vreeland -fashion editor ผู้ที่ได้รับยกย่องในวงการและ คร่ำหวอดในวงการแฟชั่น ได้รับฉายาว่า 'she was and remains the only genius fashion editor' และ 'International Best Dressed List Hall of Fame' และเป็นผู้ให้คำปรึกษา First Lady Jacqueline Kennedy จากคนที่แตางตัวเชยๆ กลายเป็น Fashion Icon จบจนถึงปัจจุบันนี้

Diana Vreeland พูดถึง Balenciaga ว่า :

'ในห้องใดๆ ผู้หญิงคนไหนสวมใส่ Balenciaga,
คุณคนนั้นจะกลายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในห้องทันที เพาะไม่มีผู้หญิงคนไหนๆจะได้-ผุด-ได้-เกิด'

[Eddy]

ในบรรดาหนังที่ใช้ทำกระเป๋าต่างๆนานา... เป็นอันรู้กันว่า หนังวัวคือหนังที่เบสิคที่สุดทุกแบรนด์ต่างเอามาใช้ ธรรมดา แต่หากอยากจะ upgrade ตัวเองขึ้นมาหน่อยก็ ใช้หนังแกะ... ส่วนมากก็เล้นอะไรได้ไม่เยอะ... อาจทำให้ special ขึ้นมาได้ เช่น อย่าง Prada ก็ทำหนังวัวให้มันนิ่มขึ้น ซึ่งก้ดูแตกต่าง หรือจะเอามาฟอกให้ดู vintage ก็เก๋ไ๋ก๋ไปอีกแบบ ส่วนใหญ่ทุกแบรนด์จะเน้นการทำสี ให้ดูหลากหลาย แน่นอนว่า Hermes และ Prada เป็นผู้นำในการทำหลากหลายเฉดสี สีเดียวแต่ออกมาได้เป็น 10 เฉด ซึ่งเก่งจิงๆ ยอมรับว่าเก่งมากๆ


แต่ใน วงการเค้าจะรู้กันว่าถ้าหากต้องการทำกะเป๋า หรือ accessory ที่เป็น special edition จิงๆ เค้าจะใช้หนังเก๋ๆอื่นๆ อย่างหนังนกกระจอกเทศ หรือ จรเข้ เพราะหนังพวกนี้จะแพงและต้องระมัดระวังการนำมาทำกะเป๋า หรือ accessory มากๆเลย ราคาจะแพงกว่าหนัง วัว และแกะ เยอะมากๆ คือ อย่าง Birkin ของ Hermes หนังธรรมดา ราคา สี่แสน พอเป็น กระจอกเทศ จะเกือบล้านเลยทั้งๆที่ model เดียวกัน


หนังนกกระจอกเทศ ถือว่าเป็นส่วนที่มีค่าและราคาแพงที่สุดในตัวนก มีค่ามากกว่าเนื้ออีก เพราะหนังนกกระจอกเทศมีคุณภาพดีเยี่ยม ดีกว่าหนังจรเข้เสียอีก ซึ่งหนังส่วนที่แพงที่สุดจะเป็นหนังส่วนหลัง เราจะเป็าตะปุ่มตะป่ำซึ่งมันก็คือ รูขุมขนมันนั่นเอง


ความ สุดยอดอีกระดับคือการทำ accessory หนังวัว เลียนแบบหนังแสนแพง .. เพาะความยากคือเค้าต้องทำให้เหมือน แต่ด้วยความสัตย์เค้าจะโกหกไม่ได้ ที่เข็มขัด balenciaga เส้นนี้เช่นกัน เค้าทำเลียนแบบหนัง ostrich อันแสนแพง แล้วเอามาขายในราคาที่ย่อมเยาว์ลงมา เป็นอันแน่นอนแล้วว่า Creative Director คนใหม่ของ LV จะได้ Creative Director ของ Balenciaga คนนี้ >> Nicholas Ghesquiere << ซึ่งได้เป็นที่ต้องตาต้องใจของ LV และจะเขยิบเข้าไปแทน Marc Jacob ซึ่งแน่นอนแน่นอนว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา ด้วยสไตล์ของ >> Nicholas Ghesquiere <<แน่นนแนว่าจะทำให้ LV ดังขึ้นอีกมากๆ เอ้ดดี้ก็คิดว่่าคงจะกลับไปรัก LV new design ในไม่ช้านี้

คน มองก็ต้องร้อโอ้โห เข็มขัดแพงมาก จิงมะ เราไม่ได้โกหก ก็ไม่มีใครถาม เพาะถ้าถามเร้าก็จะบอก เพาะ เราทำตาม concept แบรนด์เนม ไม่โกหก แต่ถ้าไม่ได้ถาม ก็ไม่มีความจำเป้นต้องไปบอก จิงมะ?

-สี light grey , แสน classic มีรสนิยม สวยมาก ใช้ได้ ชาย-หญิง

-หนังเลิศเป็นที่สุด เลียนแบบ หนังนกกระจอกเทศ อันจัดเป็นหนังที่แพงสุดในสามโลก

-เก๋ตรงมีห่วง 3 ห่วง สร้างเพื่อรองรับสายยาวหากต้องไปเจาะรูเพิ่ม เข้า-ออก

-size 90/36 เหมาะมากกับคนเอว 34 ลงมา

































12,500 บาท (ผ่อนได้ 0 % ไม่มีกำหนด) ขอบอกว่าถ้าเป็น นกกระจอกเทศจิงๆ เข็มขัดเส้นนี้ 6 หมื่น up แน่นอน

[Eddy]

ต่อด้วย balenciaga belt อีกเส้น แน่นอนว่าเป็นหนัง signature ของเค้าล่ะ หนังแกะแสนมีมูลค่า มากกว่าหนังวัว เอามาทุบให้หนังแตกลายด้วยฝีมือมนุษย์ หนังทุกใบจึงจะไม่มีวันเหมือนกันเลย
Design สวยเก๋ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีชมพูซึ่งยอมรับว่าสวยมากของ balen

-เส้นเล็ก สวยมาก ใส่แล้วดู feminine
-เพิ่มค่าไปเพิ่มขึ้นอีกด้วย มีหมุดตอก signature แบบไม่มีข้องกังขา หมุดของ Balen จะไม่ใช่หมุดเหล็กธรรมดา แต่รายละเอียดในหมุดต้องผ่านการแกะสลักในจุดเล็กๆ อย่างมืออาชีพ พิถีพิถัน







หมุดตอก signature แบบไม่มีข้องกังขา หมุดของ Balen จะไม่ใช่หมุดเหล็กธรรมดา แต่รายละเอียดในหมุดต้องผ่านการแกะสลักในจุดเล็กๆ อย่างมืออาชีพ พิถีพิถัน



หมุดตอก signature แบบไม่มีข้องกังขา หมุดของ Balen จะไม่ใช่หมุดเหล็กธรรมดา แต่รายละเอียดในหมุดต้องผ่านการแกะสลักในจุดเล็กๆ อย่างมืออาชีพ พิถีพิถัน
























11,500 บาท (ผ่อนได้ 0 % ไม่มีกำหนด)