กรณีฉ้อโกงต้องการเอกสารดำเนินคดีทางกฎหมายทำอย่างไร       การสร้าง สินค้าแฟชั่น สู่สินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ความรู้ที่ได้จากชุมชน SBN บทที่1       สมาชิกเก่า สมาชิกใหม่ อ่านหรือยัง สำคัญมากครับ <--"คลิ๊กที่นี่"             

nattarika

Veniceเมืองแห่งสายน้ำ

Rate this Entry

♥♥–ขอย้อนกลับไป ต้นๆของทริป Venice Italy เป็นอีกหนึ่งเมืองที่อยู่ในโปรแกรมเที่ยวนี้ ขับรถ

จากเบลเยียม แวะพักและเที่ยวที่ Nuremberg, Germany 2คืน ก่อนจะตรงต่อไป Venice อีก700

กว่ากิโลเมตร เป็นการขับทางไกล(อีกแล้ว) ออกจากเยอรมันแต่เช้าถึงเวนิซ อิตาลีช่วงเกือบเย็น

ฝนตกตลอดสามวันในเวนิซ T_T

เมื่อมาถึงเวนิซก่อนจะเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งจะเจอท่าเรือก่อนเลย นักท่องเที่ยวเยอะจริงไรจริง



สถานีรถไฟเวนิซเดินมาหน่อยจะเป็นทาเรือที่จะข้ามไปยังอีกฝั่ง



ถนนตรอกซอกซอยเล็กน้อยในเวนิซ ขอบอกมีคนเดินแล้วหลงด้วยน่ะ

(รวมทั้งเรา 55 จะไม่หลงได้ไง มาเดินตอนช่วงมืด3-4ทุ่ม กะจะหามุมถ่ายรูปแสงไฟสวยงาม

ที่ไหนได้เค้าไม่เปิดไฟตอนกลางคืน 55 เดินหลงวนตามซอยเล็กน้อยต่างๆร่วมชั่วโมงกว่าจะหา

ทางออกมาได้) ลองจินตนาการถนนในรูปข้างล่างตอนกลางคืนมืดไม่มีแสงไฟ

ไม่มีแสงสว่างดูว่าน่าสะพรึงขนาดไหน บ้านคนต่างๆบางบ้านแทบไม่มีคนอยู่ปล่อยร้าง

บางบ้านยังมีคนอาศัยอยู่แต่เค้าไม่เปิดไฟหน้าบ้านกันเลย ประหยัดไฟมั้ง 55 มืดตื๋อ

ยิ่งช่วงเดินๆมีคนเดินตามหลัง ต้องแกล้งทำหยุดเพื่อจะให้เค้าเดินผ่านหน้าเราไปก่อนง
ไม่ชอบมีคนเดินตามหลัง รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยามค่ำคืนที่แสนจะมืดแบบนี้






สะพานเยอะจริงๆเดินเก็บรูปกันไม่หวาดไม่ไหวเลย ^^




**สะพานที่มีชื่อเสียงของเวนิซ เป็นสะพานแรกเริ่มแต่ก่อนเป็นไม้ผุพังซ่อมแซมไป

ตอนนี้เป็นอิฐแล้วยังคงซ่อมปิดอยู่





ที่นี่มีโบสถ์มากมายเยอะจริงๆๆๆๆ รวมไปพิพิทธ์ภัณฑ์ต่างๆ แต่ทุกทีเสียค่าเข้าชม

ทุกที่ไม่มีฟรี










ใต้รูปข้างล่างนี้ ถ่ายจาก ภายในวังดอจ ชั้นใต้ดินที่เป็นคุกขังนักโทษสมัยโบราณ

ปัจจุบันเป็นพิทธภัณฑ์ แต่ก่อนสถานที่นี้ขังนักโทษทั้งการเมืองและคดีต่างๆ

มีทั้งเจ็บตายบ้างไรบ้าง ขอบอกว่าเดินข้างในแล้วรู้สึกเย็นแปลกๆ อึดอัดบอกไม่ถูกไม่ชอบเลย

(แต่ความรู้สึกยังไม่รุนแรงเท่ากับตอนที่เดินในWestminster Abbey ในลอนดอน แล้วจะมาเล่า

เรื่องราวประสบการณ์ให้ลองอ่านกัน coming soon ^_^


ส่วนตัวเดินไปถึงใต้ดินแล้วอยากจะเดินออกมาที่สุด แต่ออกไม่ได้เพราะต้องเดินตามทาง

ที่เค้ากำหนดคือจะต้องผ่านคุกใต้ดินถึงจะเจอทางออก สรุปคือต้องทนเดินให้จนสุดถึงทางออก

เลย ผ่านห้องขังหลายๆห้อง อากาศเย็นๆ ไม่อยากจะคิดสมัยนั้นพวกนักโทษเค้าจะทรมาน

กันแค่ไหนยิ่งช่วงหน้าหนาว มองเข้าไปรู้สึกหวิวพิกิล เลยต้องรีบๆเดินให้พ้นๆไป

ส่วนรูปนี้มุมนี้นักท่องเที่ยวชอบไปถ่ายรูปเพราะได้เห็นทิวทัศน์ภายนอกที่สวยงาม

ซึ่งตรงข้ามกับภายในคุกที่น่ากลัวและวังเวง

♥♥–♥♥–






Updated 20-06-16 at 20:59 by nattarika

Tags: None Add / Edit Tags
Categories
Uncategorized

Comments