บล็อกการเงิน

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (21 - 25 ธันวาคม 2563) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 296,403.46 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 59,280.69 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 17% ทั้งนี้เมื่อแยกตาม ประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 62% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 182,642 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขาย เท่ากับ 74,673 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 10,054 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิด ขึ้น ตามลำดับ


สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB29DA (อายุ 9.0 ปี) LB246A (อายุ 3.5 ปี) และ LB21DA (อายุ 1.0 ปี) โดยมีมูลค่าการ ซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 15,443 ล้านบาท 8,171 ล้านบาท และ 7,755 ล้านบาท ตามลำดับ

หุ้นนิเคอิวันนี้


ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รุ่น BANPU295A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 611 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) รุ่น CPF418A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 571 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รุ่น BANPU274A (A+) มูลค่า การซื้อขาย 557 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงประมาณ 3-4 bps. ท่ามกลางความกังวลการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ (SET) ปรับลดลง 80.6 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,401.78 จุด ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. มีมติเอกฉันท์ให้ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ต่อปี เพื่อหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว และรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายที่มีจำกัด โดยคาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวลง -6.6% สำหรับปัจจัย ต่างประเทศ สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ อยู่ที่ระดับ 803,000 ราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 885,000 ราย


สัปดาห์ที่ผ่านมา (21?25 ธ.ค.63) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ -9,417 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) -7,200 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) -1,859 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติ หมดอายุ -358 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้