กรณีฉ้อโกงต้องการเอกสารดำเนินคดีทางกฎหมายทำอย่างไร       การสร้าง สินค้าแฟชั่น สู่สินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ความรู้ที่ได้จากชุมชน SBN บทที่1       สมาชิกเก่า สมาชิกใหม่ อ่านหรือยัง สำคัญมากครับ <--"คลิ๊กที่นี่"             

Blog Comments

  1. valentino's Avatar
    นคร ยังไม่ลดละที่แสวงหาทางออก เขาเหลือบไปเห็นพระคัมภีร์ (ไบเบิ้ล) เชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้าอยู่ข้างเตียง เขาจึงตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาอธิษฐาน แล้วสุ่มเปิดขึ้นมาจำได้ว่าหน้านั้นคือ ลูกา เล่าเรื่องตามหาแกะที่หายไปเพียง 1 ตัวจาก 99 ตัว แล้วแสดงความดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อหาเจอ แล้วบอกใครต่อใครว่าเจอแล้ว

    “ใจความตรงนี้ทำให้รู้สึกราวกับว่า นี่คือสิ่งที่พระองค์กำลังบอกว่าเราคือ คนบาปที่หลงหายไปของพระองค์ เป็นเหรียญที่หล่นหาย เป็นแกะหลงที่พระเจ้าหาเจอ แล้วได้กลับมาเป็นลูกของพระเจ้า ในใจรู้สึกอย่างนี้เลย เนื้อหาและคำต่างๆ เหล่านั้นมันตรงเข้าไปสู่ใจเรา เกิดความรู้สึกปีติ มันซาบซึ้งเข้าไปข้างใน จนน้ำตาไหลซึมออกมา”

    ในครั้งนั้น มีคนชวนให้ทดลองไปที่คริสตจักรใจสมาน เขา ไม่รีรอที่จะก็ลองเข้าไปเชื่อและเข้าไปอยู่ในคริสเตียน แล้วปาฏิหาริย์ก็บังเกิด ช่วยทำให้อาการป่วยทั้งหลายของตัวเขาเอง และคนรอบข้างมลายหายเป็นปลิดทิ้ง

    เขารู้ว่าศาสนาพุทธช่วยให้พ้นทุกข์ได้จริง แต่อาจมีจริตไม่ตรงกัน ทำให้ยังไม่ได้คำตอบของชีวิต

    ขณะที่เขากลับค้นพบความจริงว่า พระเยซูทรงมีตัวตนจริง สามารถมองเห็นด้วยตา และรับรู้ได้ด้วยจิตใจ คือรู้มาจากข้างใน จากจิตวิญญาณ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าพระองค์จะช่วยแบ่งเบาภาระได้ ทั้งยังบอกเป้าหมายแห่งชีวิต ทำให้รู้คำตอบที่ว่าเกิดมาในโลกนี้ทำไม

    เมื่อเข้าไปศึกษาคำสอนในไบเบิ้ลมากขึ้น ยิ่งเรียนมาก ยิ่งรู้มาก ทำให้ใกล้ชิด สนิทกับพระเจ้า เกิดเป็นศรัทธาอันยิ่งใหญ่ เกิดสันติสุขในใจ จนมั่นใจได้ว่าตัวเราจะไปไหน และชีวิตเป็นนิรันดร์ ความตายไม่ใช่สิ้นสุด แต่เป็นต้นกำเนิดชีวิตใหม่

    “ยิ่งศึกษายิ่งเห็นความจริงว่า มนุษย์เป็นคนบาป ช่วยตัวเองไม่ได้ พระเจ้าจึงมาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นพระเยซู เพื่อไถ่บาปให้มนุษย์ ส่วนมนุษย์ก็มีสิทธิ์เป็นผู้รับ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เราแค่เอาส่วนที่เป็นของเรามาทำประโยชน์ ทำงานเพื่อรับใช้พระเจ้า”

    นครบอกว่า การเข้าถึงพระเยซูคริสต์ ทำให้โลภน้อยลง เพราะรู้ว่าชีวิตมาอยู่เพียงชั่วคราว จึงไม่ยึดติดกับกิเลส ลาภ ยศ เพราะพวกมันไม่จีรัง ทุกคนมาทำงานเพื่อพระเจ้า เมื่อเสร็จการงานหน้าที่แล้ว ก็จะกลับไปอยู่กับพระเจ้า ทำให้มีความสุขที่จะอยู่กับผู้คนมากกว่า เพราะการอยู่ร่วมกันสอนให้รู้จักการให้อภัย เมตตา เหมือนพระเจ้ารักมนุษย์ทุกคน และอยากให้พ้นทุกข์

    เขาเล่าต่อว่า ได้รู้ถึงพระองค์ระดับหนึ่งสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ชนิดวันต่อวัน และยิ่งเปลี่ยนยิ่งเข้าใจแก่นแท้ว่า ชีวิตเป็นเพียงวิญญาณ ที่เห็นในกระจกนั้นเป็นตัวปลอม ตายแล้วก็ฝังลงดิน แต่วิญญาณของเราเป็นพันธนาการ ไปสู่สวรรค์สถาน ซึ่งจะรับร่างกายที่ไม่ทุกข์ ไม่มีบาปในรูปของกายทิพย์

    “เชื่อในลักษณะนี้ทำให้มีเป้าหมายชัดเจนมากขึ้น มองไปถึงนิรันดร์ ที่ตั้งอยู่ในระยะไกล มองทะลุ หรือมองข้ามชอตไปถึงอนาคต จิตวิญญาณที่เชื่อในพระเจ้า จะสอนในสิ่งที่ถูกที่ควร ทำให้รู้จักรัก เสียสละ ขยันทำงาน แต่ไม่โลภ ไม่เอาเปรียบ ไม่อิจฉา ไม่คิดเคียดแค้น คิดว่าบาปนั้นเป็นศัตรู เราจึงไม่ทำสิ่งที่เป็นบาป อดทนได้มากขึ้น เห็นแก่ตัวน้อยลง หรือไม่ใช้สิ้นเปลืองมาก คริสต์ไม่ได้สอนให้หลุดพ้น แต่ทำให้พอเหมาะ เน้นไปทางชีวิตปกติ ธรรมชาติทั่วๆไป”

    ผลจากความสบายใจ อบอุ่นใจทำให้ นคร สร้างวิถีชีวิตที่มีอิทธิพลต่อคนรอบข้างได้ และยังเผื่อแผ่ให้ผู้อื่น เช่นเวลาเพื่อนโมโห ก็บอกให้รู้จักอภัย อธิบายให้เป็น ทำให้เป็นธรรมชาติ แล้วจิตใจก็จะเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยน

    หรือการส่งลูกชาย (โต๋) ไปบวชตั้งแต่ยังเล็กๆ เพื่อหล่อหลอมให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมดีๆ เขาจึงโกรธแค้นไม่เป็น ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ โดยไม่ได้รู้สึกว่ามันคือวิถีของคนดี เพราะนี่คือเรื่องปกติธรรมดา มันเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพยายาม

    และไม่นานนัก นคร เวชสุภาพร ได้กลายเป็น ศิษยาภิบาล ของคริสต์จักรอภิสุทธิสถาน (โฮลี่ ออฟ โฮลี่ส์) เป็นผู้นำคนหลายร้อย หลายพันคนมาพบทางออกของชีวิตเช่นเขา

    นครจะแบ่งเวลาดูแลครอบครัว และงานที่ปรึกษาฝ่ายการตลาดให้กับบริษัท ทีวี ไดเร็ก มาบริหารคริสตจักร คิดกิจกรรมในวันอาทิตย์ เป็นที่ปรึกษา เป็นกำลังใจ เวลาสมาชิกเดือดร้อน ร่วมประชุมกิจกรรมเผยแผ่ หรือสร้างความร่วมมือต่างๆ กับโบสถ์

    ดนตรี..พรจากสวรรค์

    ทุกวันนี้ นคร ยังเล่นดนตรีอยู่บ้างในเวลาก่อนนอน แต่เมื่ออยู่ในโบสถ์ เขาก็พร้อมสร้างเสียงเพลงที่ให้กำลังใจ เสียงเพลงที่เยียวยารักษา เสียงเพลงที่สรรเสริญพระเจ้าผู้นำเขาให้พบกับทางออกของชีวิต

    อดีตหัวหน้าวงแกรนด์เอ็กซ์ อธิบายว่า เพลงเป็นแกนหลักของศาสนาคริสต์ เพลงเป็นชีวิตของคริสเตียน แยกออกจากกันไม่ได้

    “อย่างเวลาเราได้ยินเพลงคริสมาสต์เรารู้ได้ทันที จินตนาการได้ถึงบรรยากาศท่ามกลางเสียงเพลง แต่ชีวิตคริสเตียนรู้และฟังตั้งแต่เด็กๆ จนคุ้นเคย เข้าโบสถ์อ่านพระคัมภีร์ ก็ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า หรือแต่งงาน วันเกิด เรียนหนังสือ ขอกำลังใจก็ร้อง แถมเพลงยังหลากหลาย ถ้าเริ่มฟัง ใช้ จำ และฝึกปรือก็จะลึกซึ้งเอง”

    เหมือนที่มีคำกล่าวในไบเบิ้ลว่า “พระเจ้าเป็นบทเพลง”

    พระเจ้าสอนให้รู้จักธรรมชาติโดยไม่ต้องเรียน ขณะที่บทเพลงก็มาจากธรรมชาติ และบทเพลงยังทำให้มนุษย์รู้จักพระเจ้ามากขึ้น ถ้าจะกล่าวว่าพระเจ้ากับบทเพลงเป็นสิ่งเดียวกันก็ไม่ผิด

    ไม่เพียงเท่านั้น ดนตรีหรือบทเพลง ยังเป็นพรสวรรค์พิเศษที่มนุษย์ได้รับมาจากพระเจ้า ซึ่งจะได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าท่านจะประทานของพิเศษให้ผู้ใด เช่นโชแปง, เซบาสเตียน บาค หรือ อะมาดิอุส วูลฟกัง โมสาร์ท ที่มีความสามารถตราตรึงใจคนทั่วโลก

    แม้จะพูดในเชิงวิทยาศาสตร์ว่าพรแสวงสำคัญ ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่เด็ก มันก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาเชือ่ว่าต้องมีพรสวรรค์ประกอบอยู่ดี

    “ผมเชื่อว่าพรสวรรค์สำคัญกว่าพรแสวง เพราะมันคือสิ่งที่ธรรมชาติให้มา จะไปได้ดีและเร็วกว่า แต่ถ้าไม่ได้พรวิเศษมา เราก็เอาวิธีการของพระเจ้าเป็นหลัก ดำเนินไปตามวิธีของท่าน ซึ่งถือเป็นพรแสวงที่ได้จากพระเจ้าเหมือนกัน”

    ยกตัวอย่าง ลูกชายทั้งสองคนเป็นคำอธิบายว่า โต๋ คือผลิตผลของพรสวรรค์อย่างแท้จริง เพราะเขาจะคิดเป็นโน้ตเพลงอยู่ในหัวตลอดเวลา และสร้างสรรค์ผลงานที่ดีออกมาได้ แล้วยังส่งต่อพัฒนาการด้านอื่น ทำให้เรียนภาษาจีนได้เร็ว เพราะเป็นภาษาตัวโน้ตเหมือนกัน

    ส่วนเต๋ ลูกชายคนเล็ก แม้พรสวรรค์จะไม่มีผลเท่าใดนัก แต่พรแสวงก็ทำให้เขาเห็นประโยชน์ของดนตรี เขาชอบตีกลอง และร้องเพลงได้ แต่สนใจที่จะทำธุรกิจมากกว่า

    “เราต้องพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ทำได้ดีแค่ไหน เอาแค่นั้น เพราะพระเจ้าจะใช้คนตามของที่ประทานให้ เมื่อได้มามาก ก็ต้องทำให้มาก โต๋จึงเหนื่อยกว่าคนอื่นๆ แต่เขาก็มีความสุขที่ได้ทำ”

    และความรักในดนตรี ก็ทำให้เนื้อในใจความของบทเพลงที่กลั่นกรองออกมานั้น อบอวลไปด้วยความรักเช่นกัน

    เพลงรักอันซาบซึ้งใจล้วนได้แรงบันดาลใจจากพระเจ้า เพราะความรักเชื่อมั่น ศรัทธาในพระเจ้า ทำให้บทเพลงนั้นลึกซึ้งกว่าความรักที่มนุษย์ให้กันเอง

    “คริสต์ ทำให้ชีวิตมนุษย์ละเอียดขึ้น พระเจ้าเปลี่ยนเรา เปลี่ยนชีวิตได้จริง เป็นคำตอบทุกปัญหา จะผ่านปัญหาไปได้อย่างอัศจรรย์ พระองค์นั้นเป็นคำตอบได้จริง” นครกล่าวย้ำถึงสัจจะแท้แห่งชีวิต

    โดย : ชฎาพร นาวัลย์
    Link: http://www.bangkokbiznews.com/
  2. valentino's Avatar
    นอกจากนี้ พระคัมภีร์ยังมีความอัศจรรย์ในแง่ต่างๆ อีกมากมาย เช่น ซากวัตถุขนาดใหญ่บนภูเขาอารารัต ซึ่งเชื่อว่า เป็น เรือโนอาห์ ที่ปัจจุบันถูกถ่ายรูปได้จากดาวเทียม, Hebrew code ที่ซ่อนเร้นไว้ในพระธรรมโทราห์, ความอัศจรรย์ของเลข 7 เป็นต้น
    หลังจากศึกษาอยู่ 8 เดือน ข้าพเจ้าก็ยอมจำนนต่อพระคัมภีร์ และรับพระเยซูเป็นผู้ช่วยให้รอด ในวันคริสตมาส เมื่อ 3 ปีก่อน
    เมื่อเป็นคริสเตียนใหม่ ข้าพเจ้ายอมรับว่าอาย ไม่กล้าบอกใคร เมื่อบอกออกไปก็มักถูกล้อเลียน ... จนวันหนึ่ง ข้าพเจ้าได้เป็นพยาน เรื่องพระองค์ ให้ผู้ป่วยใกล้ตายคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 18 ปี ข้าพเจ้าได้ยิน เรื่องราวของเธอ จากการประชุมแพทย์ และทราบว่าเธอได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการดื่ม Paraquat อันเป็น ยาฆ่าวัชพืชที่มีพิษรุนแรงต่อมนุษย์ และเธอดื่มเข้าไป เป็นปริมาณมากเกินกว่าที่จะรักษาชีวิตของเธอไว้ได้ เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ตับและไตของเธอ ได้รับความเสียหายรุนแรงมากแล้ว
    ข้าพเจ้าเชื่อเสมอว่า การฆ่าตัวตายเป็นบาปที่ใหญ่หลวง ทั้งจากความเชื่อเดิม และความเชื่อใหม่ ข้าพเจ้าทราบ ดีว่า เธอจะต้องตาย และมีเพียงผู้เดียว ที่จะยกโทษให้แก่การกระทำในครั้งนี้ได้ คือ องค์พระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าตัดสินใจ เข้าไปพูดคุยกับเธอ และเป็นพยานเรื่องพระองค์
    เรื่องราวที่นำเธอมาสู่การทำร้ายตนเองในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าสลด ยิ่ง ข้าพเจ้าเอง หากต้องเผชิญ ในสถานการณ์ เดียวกับเธอ ก็อาจทำเช่นเดียวกัน เธอตระหนักดีว่า เธอไม่อาจจะรอดชีวิตได้ แต่เราก็ได้อธิษฐานร่วมกันในคืนนั้น ขอพระเจ้าประทานชีวิตและโอกาสแก่เธออีกครั้ง ข้าพเจ้าอธิษฐาน ทั้งที่ไม่มีความเชื่อ เพราะข้าพเจ้าทราบ ความรุนแรง ของ Paraquat ดีว่า Paraquat เป็นสารเคมีทีพิษรุนแรง หากได้รับในปริมาณมากกว่า 5 ซีซี ผู้ป่วย เกือบทั้งหมดจะเสียชีวิต เธอผู้นี้ได้ดื่ม Paraquat ไปถึง 50 ซีซี ในเวลา 3 วัน กว่าจะถูกนำตัวมารักษา เมื่อมาถึง โรงพยาบาลนั้น เธอมีตับวาย และไตวายแล้ว ที่ประชุมแพทย์ลงความเห็นว่า ไม่ต้องให้การรักษาใดๆ เพราะเราจะ เสียเธอไปอย่างแน่นอน
    น่าอัศจรรย์ที่วันรุ่งขึ้น ไตที่เสียหายอย่างรุนแรง ได้รับการซ่อมแซม ข้าพเจ้ายังไม่เชื่อ จึงเจาะเลือด พิสูจน์อีกครั้ง ซึ่งผลออกมายืนยัน และตับที่วายก็กลับเป็นปกติใน 2 วัน อย่างไรก็ตาม Paraquat ยังคงทำลาย ปอดของเธออย่างต่อเนื่อง ออกซิเจนในเลือดต่ำลงๆ จนข้าพเจ้าหมดหวังในการหายของเธอ
    ระหว่างนี้เองมีเพื่อนแพทย์อีก 3 ท่านได้มาดูผู้ป่วยรายนี้ และสนใจเรื่องของพระเจ้า ข้าพเจ้ามาทราบภายหลัง ว่า พระเจ้าทรงชะลอเวลานี้ไว้ เพื่อดึงจิตวิญญาณผู้อื่น มาถึงความรอดของพระองค์
    หลังจากที่อยู่โรงพยาบาลกว่า 40 วัน และออกซิเจนในเลือดต่ำลงจนอาจไม่สามารถที่จะรอดชีวิต มีผู้ป่วย ประสบอุบัติเหตุรายหนึ่ง ได้อุทิศปอดให้แก่เธอ เธอได้รับการเปลี่ยนปอด และรอดชีวิต
    พระเจ้า เป็นพระเจ้า พระองค์ได้รักษาชีวิตของเธอผู้นั้นไว้ โดยพระคุณของพระองค์ด้วยการหายที่อัศจรรย์ เธอผู้นั้นรอด ทั้งที่ในฐานะแพทย์ ข้าพเจ้ารู้อย่างแน่ชัดว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ ด้วยความสามารถทางการแพทย์ ในปัจจุบัน
    นั้นเป็นครั้งแรก ที่ข้าพเจ้าตระหนักอย่างแท้จริงถึงฤทธานุภาพของพระองค์ ข้าพเจ้ามั่นใจมากขึ้น ในการดำเนิน ชีวิตกับพระองค์ เป็นพยานเรื่องพระองค์ อธิษฐานด้วยความเชื่อ และครั้งแล้วครั้งเล่า ที่พระองค์กระทำสิ่งที่เกิน ความคิด ความเข้าใจ แก่ชีวิตผู้ป่วยผ่านสายตา ของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ท่ามกลางพระคุณที่ไม่มีสิ้นสุด
    อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งเมื่อข้าพเจ้าขอบางสิ่งจากพระองค์ และพระองค์ไม่ตอบคำอธิษฐาน ด้วยความผิดหวัง เสียใจ ข้าพเจ้าตั้งใจจะเลิกติดตามพระองค์ แต่เช้าวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าได้รับจดหมายที่เขียนข้อพระคัมภีร์ ที่ว่า
    "อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง"
    ผู้ที่เขียนจดหมายได้บอกกับข้าพเจ้าว่า รู้สึกอยากจะฝากข้อพระคัมภีร์ข้อนี้ ทั้งที่ทราบว่า ปกติข้าพเจ้าเป็นคนร่าเริง ไม่มีทุกข์ร้อนเรื่องอะไร ต่อมามีพี่น้องจากโบสถ์อื่นมาเยี่ยมเยียนที่ทำงาน และหนุนใจมาก (ขณะนั้น คนรอบข้าง ข้าพเจ้า ไม่มีใครเป็นคริสเตียนเลย) ข้าพเจ้าหยิบพระคัมภีร์มาอ่าน และพบข้อความที่ตรงกับความรู้สึกในขณะนั้นพอดี และเมื่อเปิดวิทยุ ฟังก็เป็นเพลง His Love is Mine พอดีอีกเช่นกัน
    ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง มีเหตุการณ์ 4 อย่างเกิดขึ้น เพื่อเตือนให้ข้าพเจ้าทราบว่า พระองค์ยังคงเป็น พระเจ้าที่สัตย์ซื่อ พระองค์มาตามข้าพเจ้ากลับไป ข้าพเจ้ารู้สึกถึง ความรักยิ่งใหญ่ ที่หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจ ข้าพเจ้าถึงกับร้องไห้ ด้วยความตื้นตัน เป็นความสุขยิ่งใหญ่ ที่ทราบว่าตนเองเป็นที่รัก ทั้งที่ทำตัวไม่น่ารัก ท่ามกลางคน 6,000 ล้านคนในโลกนี้ ข้าพเจ้าเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่เอาแต่ใจ พระองค์ยังตามหา เพื่อจะบอกว่า แม้มนุษย์ต่ำต้อยคนเดียว ก็มีความหมายในสายพระเนตรของพระองค์
    ข้าพเจ้าได้ตระหนักว่า ทั้งที่ข้าพเจ้าเองไม่ได้เป็นคนที่ขาดความรัก เมื่อพระเจ้า เทความรักของพระองค์ลงมา ข้าพเจ้ายังมีความสุขถึงเพียงนี้ หากคนที่ไม่ค่อยได้สัมผัสความรัก จะมีความสุขสักเพียงใด
    เหตุการณ์นี้ ยังได้สอนบทเรียนที่ยิ่งใหญ่แก่ข้าพเจ้าด้วย ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าคิดเสมอว่า การที่พระเจ้า ทรงตอบ คำอธิษฐานมากมายของข้าพเจ้า เป็นเพราะข้าพเจ้าเองแสวงหาพระองค์ ความรู้สึกดังกล่าว ก่อให้เกิดความ ไม่ถ่อมใจ แต่เหตุการณ์นี้กระทำให้ข้าพเจ้าเห็นว่า แท้จริงข้าพเจ้าไม่ได้แสวงหาพระองค์ พระองค์ต่างหาก ที่แสวงหาข้าพเจ้า สิ่งที่พระเยซูทำที่กางเขนเมื่อ 2000 ปีก่อน เป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องนี้อย่างดี ไม่ใช่เฉพาะข้าพเจ้า ที่พระองค์ตามหา หากแต่เป็น มนุษย์ทุกคนที่ถ่อมใจลง ฟังเสียงเรียก ด้วยความรัก ความห่วงใยของพระองค์ เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อในการกระทำที่เสียสละนี้ จะรอด ไม่ว่าจะเป็นคนโง่หรือฉลาด ยากจนหรือร่ำรวย เป็นกษัตริย์ หรือสามัญชน พิการหรือปกติ เจ็บป่วยหรือแข็งแรง ทุกคนสามารถจะมีความเชื่อ และรับความรอดได้เท่าๆ กัน นี่คือความยุติธรรมจากของขวัญแห่งความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า
    หลังเหตุการณ์นี้ผ่านไป 3 เดือน พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าทราบว่า ทำไมพระองค์จึงไม่ตอบคำอธิษฐาน ในวันนั้น หากข้าพเจ้าได้ตามที่ขอในวันนั้น วันนี้ข้าพเจ้าคงเดือดร้อนพอสมควร ข้าพเจ้าแน่ใจว่า เรื่องราว บางอย่างที่เราคิดว่าดี และทูลขอต่อพระองค์ แต่พระเจ้าจะทรงรู้ดีกว่า และจัดเตรียมให้เฉพาะสิ่งที่ดีต่อเราเท่านั้น ข้าพเจ้าตัดสินใจ ที่จะติดตามพระองค์ไป ชั่วชีวิต ไม่ว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของข้าพเจ้าหรือไม่ เพราะข้าพเจ้าได้ตระหนักแล้วว่า ความรัก ความรอด ที่พระองค์มอบให้ ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่สมควรได้รับนั้น เป็นพระคุณ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว
    ทุกวันนี้ ข้าพเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางคนไม่เชื่อ แต่ด้วยท่าที และความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ข้าพเจ้าไม่มีความ รู้สึกอับอายอีกต่อไป ตรงข้าม ข้าพเจ้ากลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า เข้าเหล่านั้นไม่ตระหนักว่า ทรัพย์สิน เงินทอง การยกย่องสรรเสริญจากมนุษย์ เกียรติยศ และของทุกอย่างในโลกนี้ไม่อะไรเลยที่ทำให้อิ่มใจได้ มี เพียงองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น ที่จะเติมหัวใจของเราให้เต็ม ด้วยความรักของพระองค์ คนที่ไม่รู้จักพระเจ้า จึงต้องวิ่งหาสิ่งต่างๆ จนตลอดชีวิต และตายไปทั้งที่ยังหิวกระหาย เราในฐานะที่เป็นคริสเตียน เรามีสิ่งที่ดีที่สุด ที่ไม่มีใครจะแย่งชิงไปได้ นั้นคือ องค์พระเยซูคริสต์ ความรัก และความรอดของพระองค์
    ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
    นท.นพ. ภากร จันทนมัฎฐะ รน.
  3. valentino's Avatar
    ผมตั้งปณิธานเอาไว้ว่าต้องการถ่ายทอดเรื่องราว ของความจริงสมัยก่อนให้ดี ที่สุด นอกเหนือจากนี้ผมต้องการ ถ่ายทอดมุมมองของวิชาแพทยศาสตร์ที่ถูกรายการ โทรทัศน์นำเสนอไม่ครบถ้วนและหลายส่วนถูกกลบฝังเอาไว้ เพื่อให้เห็นว่าผู้ป่วยมีความต้องการอยากรับการรักษาแค่ไหน และภาพของแพทย์ก็ไม่ใช่การนั่งมองจอมอนิเตอร์เพียงอย่างเดียว ผมเริ่มเขียนและนึกภาพภารกิจของโรงพยาบาลในแอฟริกา ผมอยากให้คนอ่านเห็นภาพอันแสนธรรมดา ของโรงพยาบาลที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่าง หมอกับผู้ป่วย ไม่ถูกกั้นระหว่างกันด้วยเทคโนโลยีหรือความรู้ที่แตกต่างกัน สิ่งที่พวกเขาเห็นร่วมกันคือความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานในความเป็นมนุษย์ ผมต้องการให้งานเขียนของผมเป็นยาสมานและรักษาผู้คน
    ตัวละครแต่ละคนในนวนิยาย Cutting for Stone มีบุคลิกที่แตกต่างกันด้วยเหตุผลต่างกันไป อะไรที่ทำให้คุณเป็นหมอ ?

    ผมเป็นลูกคนกลางในจำนวนพี่น้องสามคน พ่อและแม่เป็นชาวอินเดียที่สอนวิชาฟิสิกส์ในมหาวิทยาลัย พี่ชายของผมฉลาดเกินวัยและเก่งด้านตัวเลข ส่วนผมไม่มีหัวด้านนี้เลย ครอบครัวชนชั้นกลางของพวกเรามี 3 อาชีพให้เลือกได้แก่ หมอ, วิศวกร และนักกฎหมาย พี่ชายของผมประกาศตัวว่าอยากเป็นวิศวกร ซึ่งพ่อและแม่ผมปลื้มมาก ตอนเป็นเด็กผมไม่ชอบเห็นไก่ถูกเชือดหรือแพะถูกฆ่า แต่ผมชอบดูสัตว์คลอดลูก นี่อาจทำให้ผมเข้าใจว่าคือการเป็นหมออีกรูปแบบหนึ่ง และผมก็มารู้ว่าการเป็นหมอคือยังไง
    ผมได้อ่านหนังสือหลายเล่ม เช่น Of Human Bondage งานเขียนของ Somerset Maugham อ่าน Lolita และ Lady Chatterley's Lover ตอนอายุ 12 ปี ฟิลลิปในเรื่อง Of Human Bondage เดินทางออกจากปารีสเพื่อไปเป็นศิลปินด้วยเงินจำนวนจำกัด และอดอยากปากแห้ง จนเขาค้นพบว่าไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ เขาผิดหวังและกลับไปที่ลอนดอนเพื่อศึกษาต่อที่โรงเรียนการแพทย์ หลายปีต่อมาเขาได้พบกับคนป่วยนอกคนหนึ่งของคลินิกเป็นครั้งแรก และเขารู้ว่าที่เลือกมาทางนี้ถูกต้องแล้ว ความคิดนี้ก็สิงอยู่กับผมตลอดมา ทำให้ผมได้คิดว่ายังมีเพื่อนมนุษย์ผู้ทุกข์ทนอยู่ตรงนั้น สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนมนุษย์ทำให้ศิลปินผลิตงานออกมา และสิ่งที่ฟิลลิปได้พบเห็น ก็ทำให้เขารู้สึกถึงฐานะของการเป็นศิลปินได้เช่นกัน
    ความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ กึกก้องอยู่ในหัวของผมเมื่ออายุ 12 ปี ผมคิดว่าถ้าพระเจ้าไม่ได้ประทานพรสวรรค์การเป็นศิลปินมาให้ การเป็นหมอก็ช่วยคนได้เช่นกัน และน่าจะเป็นอีกอาชีพที่ดีไม่น้อย การเป็นหมอต้องได้ไปข้องแวะกับชาวบ้าน ได้เห็นความทุกข์ยากของมนุษยชาติ หมอหลายคนไปเป็นหมอเพราะพวกเรา ต่างมีบาดแผลในใจของตนเองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    ในทางกลับกันการเป็นหมอช่วยส่งเสริมอะไรคุณบ้างในการเป็นนักเขียน ?

    การเป็นหมอมีส่วนช่วยให้ผมทำงานเขียนได้อย่างมาก แต่ผมไม่เคยห้อยท้ายในการทำงานเขียนว่าผมเป็นนายแพทย์ นอกจากจะใช้ในการเขียนตำราหรือเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับทางการแพทย์ การเขียนหนังสือยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวงาน ของมันเองอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ผมยอมรับว่าการเป็นหมอทำให้ผมเข็นนวนิยาย และงานเขียนออกมาได้ การเขียนและการเป็นหมอเหมือนกับทางคู่ขนาน ผมได้ยินคำพังเพยที่ว่า "พระเจ้าอยู่ในทุกรายละเอียด" พระเจ้าของผมจึงอยู่ทั้งในการไปอบรมการเขียน และการเป็นหมอ พอผมพบผู้ป่วย ผมได้ประวัติศาสตร์ และในคำว่าประวัติศาสตร์ก็มีคำว่าเรื่องราว ซ่อนอยู่ (history ประวัติศาสตร์ story เรื่องราว) ไม่มีทางลัดในการเขียน เพราะมันเป็นงานที่ไม่ง่าย และศิลปะในการประพันธ์คือการแก้ไขขัดเกลางานเขียน พรสวรรค์ที่เกิดขึ้น มีอยู่ในความไม่ระย่อที่จะแก้ไขงานให้เป็นที่พอใจตัวเอง ซึ่งใช้เวลาหลายปีกว่าได้ดั่งใจตัวเอง
    คุณถ่ายทอดภาพของโรง พยาบาลในเอธิโอเปียได้อย่างเห็นภาพ มันเห็นทั้งความงามและความยากจนในเวลาเดียวกัน ทำไมถึงตัดสินใจใช้ฉากเป็นประเทศเอธิโอเปีย บรรยากาศของสถานที่ต่างๆ ในเรื่องมีผลต่อคุณเช่นไรบ้าง ?

    ถึงผมจะมองเห็นทุกภาพ แต่ผมคิดว่านวนิยายถ่ายทอดความรู้สึก ของสถานที่ได้ดีกว่าสื่อกลางอื่นๆ ซึ่งจะเห็นได้จากการเขียนของ Somerset Maugham ที่ทำได้อย่างดี มีไม่กี่ภาพที่ผมถ่ายทอดให้เห็นถึงสงครามและความอดอยาก ผมต้องการบอกเล่าความรักที่ผมมีต่อดินแดนและผู้คนที่นี่ เพราะพวกเขามีความงดงามและจิตใจดีอย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงอุปนิสัยที่น่ารัก
    นอกจากนี้ผมอยากสื่อสารให้ผู้อ่านได้เห็นว่า คนเก่าคนแก่ของที่นี่รู้สึกสูญเสีย เมื่อต้องหลีกทางให้กับสิ่งใหม่ที่ย่าง กรายเข้ามา เอธิโอเปียบอบช้ำมาเนิ่นนานหลายปี จากการอยู่ใต้การปกครองของชายที่ชื่อเม็ง กิสตูที่ขึ้นสู่อำนาจ เขามีรัสเซียและคิวบาหนุนหลังอยู่ การเรียนแพทย์ของผมต้องสะดุดลงเพราะชายผู้นี้ จนผมต้องระเห็จไปอยู่ที่ต่างประเทศ มันเป็นช่วงเวลาของความรู้สึกแห่งการสูญเสียของผมเลยทีเดียว เพื่อนนักเรียนแพทย์หลายคนผันตัวเองไปเป็นสมาชิกกลุ่มใต้ดิน เพื่อล้มล้างรัฐบาล บางคนเสียชีวิตในการเรียกร้องและต่อสู้ หลายคนต่อสู้เรียกร้องยืดเยื้อมาเป็นเวลาถึง 20 ปี และในที่สุดพวกเขาก็โค่นเผด็จการคนนี้ลงได้ ผมมาสำเร็จด้านแพทยศาสตร์ที่อินเดีย แต่สิ่งที่ผมได้มาเทียบไม่ได้กับที่เพื่อนๆ ได้รับเลย เพื่อนๆ ที่ยอมตายเพื่อกำจัดเผด็จการ
    คุณจะทำอะไรต่อไป คุณยังคงจะฝึกฝนทั้งการเป็นหมอและนักเขียนในคราเดียวกันแบบนี้ หรือว่ามีงานอะไรสำหรับอนาคตบ้าง?

    ผมรวบรวมเรื่องสั้นที่พิมพ์อยู่ตามหน้านิตยสารต่างๆ และหลังจากพักมาบ้างแล้วช่วงหนึ่ง ผมอยากเขียนนวนิยายอีกเล่ม ผมมีประสบการณ์มาจากเล่มแรก จึงไม่อยากให้ประสบการณ์นั้นสูญเปล่า ยังคงเขียนบทความให้กับ Wall Street Journal และ New York Times Magazine ต่อไป และอยากเขียนให้สม่ำเสมอถึงแม้จะอยู่ระหว่างการเขียนนวนิยายก็ตามที
    ผมจะเป็นหมอจนวาระสุดท้ายของลมหายใจ และจะไม่ทำให้คนป่วยผิดหวัง ผมหวังว่าจิตใจและสภาพร่างกาย ของผมจะแข็งแรงเพื่อปฏิบัติภารกิจเหล่านี้ การเป็นหมอเป็นศูนย์กลางของชีวิตผม เป็นเหมือนที่ปลอดภัย และผมไม่เคยคิดจะเลิกเป็นหมอ งานเขียนของผมเป็นสายธารที่มีต้นธารมาจากการเป็นหมอ ผมระลึกเสมอว่าสีสันต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันก็มาจากความจริงที่ผมได้สัมผัสจากการเป็นหมอ
    และผมยังคิดเสมอว่าสิ่งที่ผมอยากได้รับมากที่สุดคือ ถ้อยคำที่เกิดขึ้นบนหน้ากระดาษ มากกว่าหนังสือรับรองหรือการลาพักร้อนของนักเขียน
    บทความจาก : http://www.bangkokbiznews.com
  4. valentino's Avatar
    "Above All" -- Kaitlyn Maher -- 5yrs


  5. valentino's Avatar
  6. valentino's Avatar
    คำเผยพระวจนะสำหรับประเทศไทยของซินดี เจคอปส์ 23 มีนาคม 2010

    จากค่าย Extreme ที่เชียงใหม่

    พระเจ้าตรัสว่า จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ของพระเจ้ามายังประเทศไทย
    พระเจ้าจะเขย่าทุกสิ่งที่เขย่าได้ จะมีการเขย่ามากขึ้น และจะไม่ใช่เวลาที่ง่าย
    แต่พระเจ้าตรัสว่า และในช่วงสุดท้ายของเวลาที่มืดนี้ พระเจ้าจะเทพระวิญญาณของพระเจ้าลงบนมนุษย์ทั้งปวง
    และพระเจ้าตรัสว่า เจ้าต้องมีความกล้า เจ้าต้องไม่กลัว จะต้องเข้มเข็ง เพราะว่าเราอยู่กับเจ้า
    และพระเจ้าตรัสว่า เมื่อเจ้าอธิษฐานและยืดหยัด จงรู้ว่า เราเตรียมจิตใจของประเทศนี้เพื่อข่าวประเสริฐ
    พระเจ้าตรัสว่า จงวางใจในเราในเวลาแห่งการเขย่านี้
    จงวางใจว่า เราจะตอบคำอธิษฐานของเจ้า
    แม้ว่ามันดูเหมือนว่า เราจะไม่ทำ แต่เราจะทำ พระเจ้าตรัสดังนี้
    พระเจ้าตรัสว่า “เราได้ทำความสะอาดบ้าน” เพราะการพิพากษาต้องเริ่มต้นที่ครอบครัวของพระเจ้าก่อน
    และบัดนี้ เมื่อเราได้ชำระวิหารของพระเจ้าแล้ว เราจะชำระประเทศ
    พระเจ้าตรัสว่า “นี่คือเวลาอธิษฐานและอดอาหาร จะต้องไม่มีสักวันหนึ่งที่ไม่มีการอดอาหารเพื่อประเทศไทย
    เจ้าต้องเริ่มการรณรงค์ที่เรียกว่า “อดอาหาร - ประเทศไทย” เพื่ออดอาหารและอธิษฐานทุกวันอย่างต่อเนื่อง
    และพระเจ้าตรัสว่า “เราจะทำให้คริสตจักรของประเทศไทย เป็นคริสตจักรฟิลาเดลเฟีย
    เจ้าจะเป็นที่รู้จักเพราะความรักของเจ้า
    เราจะลบความแตกต่างโบราณ
    และพระเจ้าตรัสว่า “หลายประเทศจะมาและพูดว่า “ท่านเรียนรู้ที่จะรักกันอย่างมากได้อย่างไร”
    และพระเจ้าตรัสว่า “เจ้าได้ผ่านความทุกข์ด้วยไฟ”
    และพระเจ้าตรัสว่า “เราจะใช้เจ้าเป็นตัวอย่างของคริ สตจักรฟิลาเดลเฟียของการที่คนของพระเจ้าจะรักกันอย่างแท้จริง
    พระเจ้าตรัสว่า “เมื่อการเขย่ามาถึง เงินและทองเป็นของเรา”
    หลายคนที่ไม่สามารถซื้อคริสตจักร จะมีคนที่จะเสนอให้อาคาร เพราะเราพร้อมที่จะขยาย
    พระเจ้าตรัสว่า “จงวางใจเรา” การเขย่าจะนำมาซึ่งพระพรเท่านั้น
    และจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ท่ามกลางเด็กๆ ทั่วประเทศ
    เพราะเราจะให้การเจิมอย่างโยสิยาห์เหนือ เด็กเล็กๆเพื่อการปฏิรูป
    และพระเจ้าตรัสว่า “จงดูเด็ก 8 ขวบ จงดูเด็ก 9 และ 10 ขวบ”
    เราจะมาเยี่ยมเยียนด้วยการเจิมเพื่อการ ปฏิรูป
    และพวกเขาจะเลิกการนมัสการแบบเก่า และพวกเขาจะพูดว่า “เราจะรับใช้พระเยซู”
    พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสว่า “เราจะทำงานท่ามกลางกลุ่มผู้นำ ชั้นเลิศเป็น หมายสำคัญ การอัศจรรย์ และความฝัน
    เราจะเทพระวิญญาณของเราลงมา
    พระเจ้าตรัสว่า “เจ้าได้ทำสิ่งที่เจ้าทำได้ ตอนนี้ เราจะทำสิ่งที่เราทำได้”
    และเราสมารถมาเหมือนพายุกล้า
    เพราะลมแห่งเพ็นเทคอสต์จะเริ่มพัด
    และพระเจ้าตรัสว่า “พระสิริของเราจะเทจากเหนือจรดใต้”
    และจะมีการปลดปล่อยพระสิริของพระเจ้า

    คนหลายชั่วอายุได้อธิษฐานขอการเคลื่อน ไหวเช่นนี้ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะเราจะมาเหมือนพายุกล้า อาเมน
  7. valentino's Avatar
    ___TRUE LOVE___

  8. valentino's Avatar
    IN LOVE IN LOVE
  9. valentino's Avatar
    IN LOVE IN LOVE
  10. valentino's Avatar
    IN LOVE IN LOVE


  11. Siambrandname Webmaster's Avatar
    ขอบคุณครับ ที่เข้ามาใช้บล๊อกของระบบชุมชนแห่งนี้ครับ

    เราพัฒนาระบบบล๊อกขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการใช้งานของเพื่อนสมาชิก ในการจัดเก็บความรู้ เรื่องราว ต่างๆ ที่เพื่อนสมาชิก สนใจ
    ไม่ว่า ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าแฟชั่นต่างๆ หรือ เรื่องอื่นๆ ที่เพื่อน และอยากจัดเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้

    หากมีข้อปรับปรุงอะไร สามารถแจ้งได้ใน กระทู้นี้ครับ
    แจ้งปัญหา และเสนอแนะ แนวทางแก้ไขปรับปรุง ระบบ Blog

    และเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บและสื่อสารเผยแพร่เรื่องราวที่เพื่อนสมาชิกได้จัดเก็บไว้
    เพื่อนสมาชิกสามารถเลือก category ของ blog เพื่อเผยแพร่ไปยังส่วนหน้าเว็บที่เหมาะสม
    หรือเลือกสร้างขึ้นมาใหม่ได้ด้วยเพื่อให้ สดวกต่อกลุ่มความรู้ที่เพื่อนสมาชิกต้องการจัดเก็บ

    สามารถอ่านรายละเอียดการใช้งานระบบบล๊อกเพิ่มเติมได้ในกระทู้
    ชวนเพื่อนสมาชิก SBN มาใช้บล๊อก & ใหม่!!! แนะนำวิธีคลิกเก็บกระทู้ของตัวเองลงบล็อคได้แบบอัตโนมัติ แค่คลิกเดียว!!

    ขอบคุณครับ
  12. valentino's Avatar
    Your name High
  13. valentino's Avatar
    He is Lord
  14. valentino's Avatar
    Hillsong United - In The Mystery

  15. valentino's Avatar
    Hillsong - Forever


  16. valentino's Avatar
    Hillsong - All For Love