valentino
ความรักจากพระเจ้าของ ภณิดา ชีวะเกตุ
by
, 20-09-10 at 23:27 (2100 Views)
[COLOR=#1F1000][B] ความรักจากพระเจ้าของ ภณิดา ชีวะเกตุ[/B]
อีกบทความที่น่าสนใจ ให้เราได้เห็นชีวิตที่เป็นเหมือนคำพยาน ผ่านอะไรมามาก ต้องตั้งอกตั้งใจทำความอดทนและเข้าใจกับชีวิตของตัวเอง นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่สู้ไม่ถอย ตั้งแต่ชีวิต ความรัก การงาน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้รู้จักกับพระเจ้า และสามีมาพร้อมคำอธิษฐาน
การได้ค้นเจอความหมายที่แท้จริงของคำว่ารัก ได้ทำให้เธอรักและปล่อยวาง อดทนและให้อภัย คืนวันอันเจ็บปวดผ่านพ้นมาได้ด้วยรักที่บริสุทธิ์
เรื่อง...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ...ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ
จาก : [url]http://www.posttoday.com[/url]
[CENTER] [IMG]http://www.weareimpact.com/files/2D5AC5531CA14.jpg[/IMG][/CENTER]
บาง ครั้งชีวิตก็ยอกย้อนเอากับเรา ต้องตั้งอกตั้งใจทำความอดทนและเข้าใจกับชีวิตของตัวเอง นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่สู้ไม่ถอย ตั้งแต่ชีวิต ความรัก การงาน และบุพการีที่ประสบเคราะห์กรรม ครอบครัวไหนไม่เคยมีมะเร็งมาเยือน ไม่รู้หรอกว่าคนในครอบครัวที่มีผู้ป่วย มะเร็งต้องทนทุกข์แค่ไหน ทุกข์ทั้งกายและทุกข์ทั้งใจ เมื่อต้องเห็นบุคคลอันเป็นที่รักกัดกร่อนลงไปเรื่อยๆ ณ หุบเหวที่จุดต่ำสุด อะไรที่ทำให้เธอผ่านพ้นมาได้
รีบกลับบ้าน
“ภณิดา ชีวะเกตุ” จบปริญญาโทการตลาด มหาวิทยาลัยนิวแฮมเชอร์ สหรัฐอเมริกา จบแล้วไม่ยอมกลับ ขออยู่ทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ได้งานเป็นเซลส์ แอสซิสเทนต์ ที่เมซีย์ (Macy’s) ห้างสรรพสินค้าใหญ่เก่าแก่แห่งนิวยอร์ก โดยเป็นเอเชียหัวดำเพียงคนเดียวที่เข้าไปได้ การเป็นหัวดำในหมู่หัวทองไม่สนุก การแข่งขันสูงปรี๊ด และในฐานะที่หัวดำก็โดนเขม่น โดนใส่ความ โดนกลั่นแกล้งสารพัด ฟังแล้วเหมือนละครหลังข่าว แต่ภณิดายืนยันว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
“ลูกค้าติดเราเยอะ เพราะเราเทกแคร์ลูกค้าด้วยใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ผิดกับฝรั่งที่ปฏิบัติต่อลูกค้าไม่ดี โดยเฉพาะหัวหน้า-เซลส์แมนเนเจอร์ โขกสับเราสารพัด แต่ตัวเองทรีตลูกค้าแย่ที่สุด จนเราทนไม่ไหว เดินเข้าไปคุยกับบอสใหญ่ หัวหน้าโดนไล่ออกกลางอากาศเดี๋ยวนั้นเลย” ภณิดา เล่า สิ่งที่ได้คือบทเรียนที่มีค่า มันสอนให้รู้ว่าชีวิตต้องสู้ ต้องสู้เพื่อตัวเอง ไม่มีใครมาสู้ให้เรา
สงบเงียบเรียบราบอยู่ไม่ทันไร จู่ๆ ก็ทราบข่าวจากเมืองไทยว่าแม่ “สมศิริ ชีวะเกตุ” มะเร็งของแม่กลับมา เดิมแม่เป็นมะเร็งเต้านมซึ่งผ่าตัดไปแล้ว หากให้ติดตามอาการ 5 ปี ก็ติดตามตลอด แต่พลาด แม่เริ่มไอแห้งๆ แต่หมอก็ยังว่าไม่เป็นไร พบอีกทีมะเร็งลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง ตรวจพบตอนนี้แทบจะเรียกว่าสายเกินการณ์ เพราะมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง โดยธรรมชาติของมันจะแพร่กระจายไปทั่วตัว
แม่จ๋า
“ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแม่ เราต้องใช้เวลาอยู่กับแม่นะ” ภณิดา เล่า คิดแค่นั้นแล้วทิ้งทุกอย่าง รีบบินกลับ อาการแม่หนักขึ้นเรื่อยๆ มีอาการร้อนจัดอยู่ภายในร่างกาย ภณิดานอนกับแม่ พาแม่ไปหาหมอ และทำทุกอย่างเท่าที่จะลดความเจ็บปวดทรมานของมะเร็งระยะสุดท้าย 1 ปีเท่านั้นที่แม่กับเธอได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
1 ปีสุดท้ายคือความทรงจำที่มีค่าและเจ็บปวด แม่คือแม่ของลูก ลูกจะทำทุกอย่างที่ต้องทำ รวมทั้งการซ่อนน้ำตาไว้ไม่ให้แม่เห็น อย่าให้แม่เห็นน้ำตาของเราเด็ดขาด อยากให้เขาเห็นว่าเรายังเข้มแข็ง สุดท้ายแม่เป็นคนบอกเราเองว่า แม่ไม่ไหวแล้วลูก พาแม่ไปโรงพยาบาลครั้งสุดท้ายด้วยความหวังที่น้อยนิด มะเร็งลามไปที่ปอด หมอบอกว่าทำอะไรไม่ได้ ทั้งเราทั้งแม่ทรมานมาก
ใกล้วันที่แม่จะเสียชีวิต ปุบปับแม่ก็ดีขึ้น แจ่มใสเหมือนไม่เคยเป็นอะไร หากสัปดาห์เดียวกันนั้นแม่ก็ไป ไม่อยากยื้อแม่ไว้ เพราะรู้ว่าแม่เจ็บปวด สุดท้ายของสุดท้ายแม่แทบจะหายใจไม่ได้ ความร้อนข้างในตัวก็ร้อนจนทนไม่ไหว แม่ตายอายุ 72 ปี เผาแม่เสร็จก็ต่อด้วยพ่อ “สกล ชีวะเกตุ” สัปดาห์เดียวกับที่เผาแม่ พ่อก็ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
เดอะ โชว์ มัสต์ โก ออน
พ่อแม่มีลูก 3 คน ภณิดาเป็นคนสุดท้อง เป็นลูกหลงที่อายุห่างจากพี่ชายพี่สาวเป็นสิบปี ทั้งแม่และพ่อติดลูกสาวคนสุดท้อง โดยเฉพาะพ่อซึ่งอารมณ์ร้อน ภณิดาเป็นคนเดียวที่รับอารมณ์พ่อได้ ช่วงนั้นเธอทำงานที่จีอี แคปิตอล (ไทยแลนด์) เป็นแอ็กเคาต์ แมนเนเจอร์ งานหนักมาก แต่เวลาส่วนหนึ่งก็ต้องปลีกมาดูพ่อ ซึ่งนอกจากจะตรวจพบมะเร็ง ยังพบโรคหัวใจและโรคไต พาพ่อเข้าศิริราช
ช่วงนี้ไปๆ มาๆ ระหว่างโรงพยาบาล-บ้าน-ที่ทำงานเกือบทุกวัน พี่ชายดูแลธุรกิจของที่บ้าน ส่วนพี่สาวเป็นฟรีแลนซ์ ภณิดาลาออกจากงานเพื่อดูแลพ่อ สิบปีหลังแม่ตายเป็นสิบปีที่หนักหนาสาหัส ไม่เคยมีวันไหนที่ได้นอนเต็มอิ่ม การดูแลคนป่วยต้องทำทั้งกลางวัน กลางคืน จ้างพยาบาลมาแต่เราก็ต้องดู และต้องคุย!
“พ่อชอบคุย บางทีเราเพิ่งจะหลับ แต่พ่อตื่น พ่ออยากคุยก็ต้องคุยกับพ่อ บางทีตีสามพ่อตื่นขึ้นมาชวนคุย” ภณิดา ยิ้มอารมณ์ดี ถึงจะหนักและเหนื่อย แต่รางวัลคือการที่พ่อยังอยู่กับเรา พ่อผ่าตัดมะเร็งไปแล้ว แต่ยังต้องรักษาอาการโรคหัวใจ ส่วนไตต้องฟอกอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ทุกวันนี้พ่ออายุ 84 ปี เดินไม่ได้ และตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง
พบรัก
การตัดสินใจออกจากงานเพื่อดูแลพ่อแม่ที่เจ็บป่วย สำหรับบางคนคือการละทิ้งโอกาสการทำงาน แต่ภณิดาไม่คิดเช่นนั้น พ่อแม่สำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น นอกจากดูแลพ่อ ตอนนี้เธอทำธุรกิจเครื่องดื่มปลอดสารพิษชื่อฮาร์โมไนซ์ ร้านอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 ขายน้ำผลไม้และสมูทตีปลอดสารพิษ 100% นมและโยเกิร์ตสั่งตรงจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ (08-1620-5121)
“ที่ฮาร์โมไนซ์ อาหาร เครื่องดื่ม และดอกไม้ต้นไม้อยู่ด้วยกัน สอดคล้องกันภายใต้คอนเซปต์ของวิถีชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ สูตรเครื่องดื่มทั้งหมดคิดค้นด้วยตัวเอง ยึดหลักว่าทุกสิ่งปลอดสาร ส่วนหนึ่งคือผลลัพธ์จากพ่อแม่ที่เป็นมะเร็ง ไม่อยากให้ใครต้องเจอเหมือนเรา” ภณิดา เล่า
แล้วก็ที่ฮาร์โมไนซ์นี่เองที่เธอได้เจอกับ “ผู้ส่งสาร” ลูกค้าที่ชักชวนให้ไปโบสถ์ ได้พบพระเจ้าและความรักของพระองค์ ได้อธิษฐานขอให้พบกับคนที่เธอรักและรักเธอ (ขออย่างนี้จริงๆ) ที่สุดของที่สุดคือการได้ค้นเจอรักแท้ ชายหนุ่มที่พระเจ้าส่งมาให้ สำคัญกว่านั้นคือการได้ค้นเจอความหมายที่แท้จริงของคำว่ารัก ได้ทำให้เธอรักและปล่อยวาง อดทนและให้อภัย คืนวันอันเจ็บปวดผ่านพ้นมาได้ด้วยรักที่บริสุทธิ์
“ความรักสู้ได้กับทุกสิ่ง และทำให้เรารอดได้จากทุกอย่าง อดทนและผ่านมันไป” ภณิดา กล่าว
ขอบคุณสถานที่ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์
[COLOR=#6000BF]5 อย่างที่สุขใจ[/COLOR]
[COLOR=#BF005F]ความรักของพระเจ้า[/COLOR]
เป็นพุทธมาตลอด แม้เมื่อชีวิตถูกรุมเร้า ทั้งเรื่องแม่พ่อที่ไม่สบายตลอด ต้องจมกับความรู้สึกที่ว่าเราช่วยอะไรไม่ได้ งานกดดัน รวมทั้งเรื่องส่วนตัว คนที่คบ...มันไม่ใช่ทุกที ในวันที่ทุกอย่างดิ่งเหว เราทำทุกอย่างจนพิงฝาแล้ว แต่ไม่เจอคำตอบ กระทั่งได้พบพระเจ้าและความรักของพระองค์
[U]สามีมาพร้อมคำอธิษฐานที่ขอให้เจอคนที่ใช่ เจอหลักที่ใจจะได้พักพิง [/U][U]ทันทีที่ขอ...[/U]อดีต เพื่อนชายที่คบกัน 13 ปี และเลิกกันไปแล้ว 7 ปี โทร.มาอวยพรวันเกิดเวลาเที่ยงคืน ภณิดาเพิ่งกลับจากข้างนอก ทันที่จะวิ่งเข้าไปรับโทรศัพท์ ทุกอย่างจัดวางไว้อย่างลงตัว ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเธอไม่ค้นพบความรักของพระองค์ เรียนรู้จักคำว่าให้อภัย ไม่ยึดติดความคิดความผิดของคนอื่น เรื่องที่ครั้งหนึ่งให้อภัยเขาไม่ได้ ก็ให้ได้
[COLOR=#BF005F]จัดดอกไม้[/COLOR]
การจัดดอกไม้เป็นเรื่องของศิลปะจัดวาง ชอบตั้งแต่ก่อนไปเมืองนอก ชอบงานไอเดีย และมีความสุขทุกครั้งที่ได้จัดดอกไม้เพื่อใครก็ตาม
[COLOR=#BF005F]ทำอาหาร[/COLOR]
สมัยอยู่นิวยอร์กมีหน้าที่ทำอาหารให้ เพื่อนๆ ที่นั่นทาน ตั้งแต่ไข่เจียวยันหมูฮ่องกง แต่เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า เพราะจำได้ว่าเพื่อนคนไทยอีกคนหนึ่งก็ทำอาหารได้อร่อยมากเช่นกัน
[COLOR=#BF005F]The Bridges of Madison County[/COLOR]
ประทับใจทุกครั้งที่ หยิบอ่าน หลายคนได้ดูภาพยนตร์แล้ว แต่ภณิดาชอบหนังสือมากกว่า แม้รู้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ทั้งคู่คงรักกัน ความรักของตัวละครในเรื่องจึงเป็นสิ่งสวยงามกระทั่งตายจากกัน
[COLOR=#BF005F]สุนัขในชีวิต[/COLOR]
โกลเดนรีทรีฟเวอร์รูปหล่อ “จูเนียร์” เพราะความเข้าใจผิดของภณิดา นึกว่ามันเป็นหมาซึมเศร้า มารู้ภายหลังว่ามันไม่ใช่หมาเศร้า เมื่อสามีเล่นกับจูเนียร์แล้วจูเนียร์เปลี่ยนเป็นขี้เล่น น่าเสียดายที่อยู่อีกไม่นานก็เสียชีวิต ส่วนอีกตัวคือสามสี ตัวนี้ยังอยู่และเป็นอีกบทพิสูจน์ว่าความรักยิ่งใหญ่เสมอ
เรื่อง...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ...ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ
จาก : [url]http://www.posttoday.com[/url]
[/COLOR]