สวัสดีค่ะ

ขออนุญาติใช้พื้นที่ตรงนี้ในการประชาสัมพันธ์เรื่อง หมิ่นประมาทบนอินเตอร์เน็ทค่ะ


เพื่อนๆSBN คงทราบข้อกฎหมายหมิ่นประมาทกันดีอยู่แล้ว ตรงนี้ลิขอไม่ท้าวความากมายนะคะ
แต่ขอบอกสักหน่อย เผื่อเพื่อนๆบางคน อาจจะยังไม่ทราบ
หมิ่นประมาทคือ การใส่ความผู้อื่นไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ เช่น พูด เขียน พิมพ์ข้อความ หรือแสดงกริยาต่างๆ โดยการใส่ความดังกล่าวนั้นต้องเป็นการกระทำให้บุคคลที่สามรับทราบซึ่งเป็นการกระทำให้ผู้ถูกใส่ความนั้นได้รับความเสียหาย

และ แม้ไม่เอ่ยชื่อจริง นามสกุลจริง ก็ไม่สามารถพ้นผิดไปได้ค่ะ เพราะ..ถ้าข้อความโดยรวมแล้ว
บุคคลทั่วไปสามารถรับรู้ได้ว่าใคร เช่น ใช้นามแฝงของบุคคลนั้น รูปภาพของบุคคลนั้น เป็นต้น
ก็ถือว่าเป็น การระบุตัวแล้วค่ะ


แต่ ยังมีข้อเท็จจริงบางประการ ที่เพื่อนๆบางคน อาจจะยังไม่ทราบว่า การหมิ่นประมาท
ยังรวมถึง การที่เราFWDข้อความหมิ่นประมาท ไปยังบุคคลที่สามด้วย

ขอยกตัวอย่างสั้นๆนะคะ เพื่อนๆได้รับFWDเมลล์ ว่าดาราชื่อAขายตัว แล้วเพื่อนๆก็FWDต่อไปให้คนอื่นๆได้อ่าน แม้ว่าเพื่อนๆ จะไม่เชื่อข้อความนั้นก็ตาม แต่การที่ FWDข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาทต่อไปอีกยังบุคคลที่สาม ก็มีค่าเท่ากับ เรากำลังทำการหมิ่นประมาท บุคคลนั้นอยู่ค่ะ

แม้ว่าเพื่อนๆ จะอ้างว่า ไม่เชื่อข้อความนั้น หรือ ไม่ได้เขียนข้อความนั้นด้วยตัวเองทั้งหมด
หรือ บอกว่าได้ยินมาอีกที ไม่รู้ว่าจริงเท็จประการใด
ลองอ่านข้อความด้านล่างนี้ประกอบไปด้วยนะคะ

เหตุที่มองว่าการ Forward-mail ไปให้ผู้อื่นถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท เพราะผู้กระทำนั้นเมื่อได้รับทราบข้อความ แล้วได้ทำการเผยแพร่ต่อไป เท่ากับเป็นการใส่ความผู้เสียหายต่อไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นการขยายความเสียหายออกไป อีกจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นเอง แล้วถ้าหาก Forward-mail ต่อไปให้บุคคลอื่นอีกหลายคน จะถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่ต้องรับโทษหนักขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 นั้น จะต้องพิจารณาจากการกระทำเป็นหลัก ว่าเป็นการโฆษณาหรือไม่ โดยไม่คำนึงถึงจำนวนบุคคลผู้รับข้อความ ว่าจะมีจำนวนมากน้อยเพียงใด
^
^
ประเด็นนี้สามารถเทียบเคียงได้กับคำพิพากษาศาลฎีกาที 2822/2515 ซึ่งมีข้อเท็จจริงคือ จำเลยแสดงข้อความในจดหมายที่ได้รับจากผู้อื่น โดยรู้อยู่ว่าจดหมายนั่นมีข้อความหมิ่นประมาท ถือได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาท



ส่วนเรื่องความผิดฐานหมิ่นประมาท ทางกฎหมายนั้น แบ่งได้เป็น2ทาง
1.ทางแพ่ง คือ ถ้าเรื่องที่มีคนเอาไปพูด ไม่ใช่เรื่องจริง ถือว่าเป็นการละเมิด (เพราะทำให้เราเสียหายเสื่อมเสียเพราะมันไม่ใช่รเองจริง) กรณีนี้ เราเรียกร้องค่าเสียหายได้ค่ะ

2.ทางอาญา มีหลักคือ ยิ่งจริงยิ่งผิด เพราะกฏหมายมุ่งพิจารณาแต่เพียงว่า ถ้ามีการกล่างถึงบุคคลอื่นในด้านที่ไม่ดีแล้ว ย่อมจะทำให้สังคมไม่สงบสุข ไม่ว่าข้อความนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม
(แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็จะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งได้ค่ะ)

เพราะฉะนั้น ถ้าเราเอาเรื่องไม่จริงของใครไปพูดต่อ เค้าก็ฟ้องร้องเราได้ทั้งทางแพ่ง และ อาญาค่ะ

สรุป ทางที่ดีคือ อย่าด่าคนอื่นลับหลังเลยค่ะ ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องมีคดีอาญาติดตัวไปจนตาย เสียประวัติหมด ยิ่งสมัยนี้ มีพรบ.คอมพิวเตอร์ประกาศออกมาใช้ โทษหนักมากค่ะ ยอมความไม่ได้
เพื่อนๆลองเสิชอ่านเพิ่มเติมได้ค่ะ น่ากลัวจริงๆ

เพราะฉะนั้น ใครที่คิดจะกลั่นแกล้งใคร ด้วยวิธีสกปรกแบบนี้ ลิขอเตือนด้วยความหวังดี
ว่าหยุดเถิดค่ะ ก่อนที่สายเกินไป
เหมือนสุภาษิตโบราณ ที่เค้าบอกว่า ยอมกินขรี้ ดีกว่าขึ้นโรงขึ้นศาล

ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ