.............................................อืม...........................................................
ตึ้บค่ะ.....เราคิดออกแต่เพียงว่า งานนี้คงต้องจิกให้เจ้าหน้าที่ ตร จัดการนะคะ เพราะนาฬิกาได้ตกไปอยู่ในมือบุคคลที่ 4 แล้วในที่นี้คือลูกค้าที่มาซื้อจากร้านขายนาฬิกา...
เพราะยังไงถึงแม้ร้านบอกมาแล้วว่าขายให้ใครไป คนที่เป็นเจ้าทุกข์ก็คงไม่สามารถไปบอกเค้าว่าเอานากาช้านคืนมาน้าาา นั่นมันของช้านนนถูกขโมยมา ขอคืนเถอะนะ...คงจะบอกไม่ได้อยู่ดีอ่ะค่ะ...เพราะเค้าในฐานะที่เสียเงินซื้อจากบุคคลที่ 3 ไป ถ้าไม่มีหมายตำรงตำรวจสืบค้นคดีความตามคำสั่งพิสูจน์ว่าเป็นของโจร ก็คงจะไม่คืน.....
เราว่า ตร เท่านั้นที่จะสามารถทำอะไรได้ค่ะ....ตร และ กฏหมายเท่านั้นที่จะทำให้ >>> คนซื้อเอานากาคืน >>> ร้านนากาคืนเงินคนซื้อ 100,000 >>> เจ้าทุกข์ (อาจจะ) ได้รับนากาคืน>>> ส่วนอ้ายโจรชั่วก็ต้องเอาเงิน 60,000 คืนร้านนากาและโดนจับเข้าคุกไปเลย!!!!!
ของอย่างนี้ส่วนตัวเราเราเรียกว่า 'ซื้อของโจร' แหละคะ แต่อาจจะไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นเอง....ไม่ได้รับซื้อของโจรแต่ก็ซื้อของจากโจรไปแล้วแหละค่ะ ต่างกันตรงไหน???
ความเห็นส่วนตัว เราว่ากรณีอย่างนี้ ร้านค้าควรแสดงสปิริตให้ความร่วมมือกับเจ้าทุกข์ ร่วมกันจับโจรชั่วลากคอเอามาเข้าคุกขังกรงไปเลยนะคะ ให้ความร่วมมือเป็นพยานอะไรก็ว่ากันไป เรื่องจะได้ง่ายเข้า และจบเร็วขึ้น....ถือว่าทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ทุกข์ร้อนค่ะ....ของใคร ใครก็หวง ยิ่งโดนขโมยไป ใครก็อยากได้คืน....อย่าเห็นกับเงินกำไรแค่ 40,000 เลยค่ะ....ไม่ได้กำไร 40,000 แต่คุณได้ใจคนอื่นไปเต็มๆนะคะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น แค่นี้สังคมคงน่าอยู่ขึ้น
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -