กระทู้เตือนภัย + แนะนำให้ save ภาพถ่ายสินค้าที่ซื้อ ข้อมูลทุกอย่างของผู้ขาย รวมถึง pm การคุยโต้ตอบ จนกว่าจะได้รับสินค้า

[poundpound]

ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นบ่อยๆๆๆๆ เหลือเกิน เรื่องได้รับสินค้าไม่ตรงกับภาพ
อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ที่จะทำการซื้อสินค้า "อย่าใจร้อน" (ของของเรายังไงมันก็ต้องเป็นของเรา)

1. save รูปสินค้าชิ้นที่ต้องการไว้ด้วยทุกรูปที่แม่ค้าลงขาย
2. สอบถามรายละเอียดสินค้าให้แน่ชัด มีอะไรมากับสินค้าด้วยบ้าง
3. สอบถามสภาพและตำหนิของสินค้า (สำคัญมาก) หากมีตำหนิควรให้ผู้ขายถ่ายรูปส่งมาเพิ่ม
4. สินค้าราคาสูง ควรนัดรับเท่านั้น แต่หากจำเป็นต้องส่ง นอกจากส่งแบบ EMS แล้ว ควรส่งแบบมีรับประกันด้วย
5. ให้ผู้ขายถ่ายรูปสินค้าตอน pack ลงกล่องว่า pack อย่างไร เพราะเด๋วจะมีปัญหาตอนรับของอีก ไม่รู้ผู้ขายผิดหรือไปรษณีย์ผิด
6. เพื่อความสบายใจอีกส่วนนึง ซื้อกับใครควรขอสำเนาบัตรประชาชน เบอร์โทรบ้าน มือถือ หรือที่ทำงานไว้
7. การโอนเงิน ตรวจสอบชื่อผู้ขายตามบัตรประชาชนและเบอร์บัญชีจะต้องตรงกัน
8. อย่ากลัวว่าจะโดนรำคาญ ถ้าผู้ขายบริสุทธิ์ใจและอยากขายสินค้าจริงๆ เค้าจะเข้าใจค่ะ

ใครมีอะไรเพิ่มเติม ช่วยกันเตือนได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ขอมีส่วนร่วมเพิ่มเติมนะคะ

สำหรับผู้ซื้อ
1. การ SAVE รูปสินค้า: ควร SAVE หน้าเว็ปทั้งหน้า และ URL ที่ลงขายสินค้าด้วยค่ะ
2. ตำหนิ: ผู้ซื้อควรสอบถามถึงตำหนิอย่างละเอียด ประมาณว่าที่คุณคนขายต้องสังเกตถึงจะเห็น
ก็ช่วยแจ้งผู้ซื้อให้ทราบด้วย เพราะผู้ซื้อ ทุกท่านมีสิทธิ์รับทราบ และใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจค่ะ
3. กรณีซื้อสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ควรลงรายละเอียดการซื้อ-ขายไว้เตือนความจำด้วย เช่น
- วัน/ เดือน/ ปีที่ซื้อสินค้ามา (เผื่อจะเอามาลงขายใหม่ จะได้พิจารณาราคาให้เหมาะสม ไม่ขายของเกินราคามากไป)
- ราคาสินค้าที่ตกลงซื้อ
- หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ขายทุกหมายเลขที่ใช้ติดต่อกับผู้ซื้อ (ไม่ว่าผู้ขายจะอ้างว่าเป็นของใครก็ตาม)
- สถานที่นัดรับสินค้า
- ไปรษณีย์ต้นทางที่ส่งสินค้ามาให้ผู้ซื้อ
- รายละเอียดเลขที่พัสดุ
4. เห็นด้วยกับคุณ KAT ว่า "อย่ากลัวโดนรำคาญ" เพราะเราเป็นผู้ขายที่ไม่เคยรำคาญลูกค้าเลยค่ะ
อยากต่อราคายังไง อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไร ขอมาได้เลย ไม่ว่ากันค่ะ
(แต่ราคาก็ให้ได้เท่าที่สามารถแหล่ะค่ะ ส่วนข้อมูลต่าง ๆ เนี่ยให้เด็มที่เลยค่ะ)
5. เมื่อผู้ซื้อนัดรับกระเป๋ากับผู้ขาย ควรทำตามที่ได้ตกลงไว้ก่อนการนัดรับสินค้า
มิใช่หาเหตุผลอันไม่พึงประสงค์ เพื่อขอลดราคาสินค้า หรือไม่รับสินค้า
(ควรเอาใจเค้า มาใส่ใจเราเป็นสำคัญ)

สำหรับผู้ขายที่ดี มีคุณธรรมโดยทั่วไป
1. ผู้ขายควรขอมัดจำตามความเหมาะสม การนัดรับสินค้า (ถ้ามั่นใจในความซื่อสัตย์ของตัวเองนะคะ)
2. กรณีผู้ขายแจ้งว่า "ไม่รับคืน นอกจากพบว่า เป็นของปลอม"
ขอความกรุณาผู้ขาย
- "ซื่อสัตย์" ในการแจ้งสภาพสินค้าที่แท้จริง
- "สัตย์ซื่อ" ในคำพูดของตนเอง
ประสบการณ์: เพื่อนเคยเจอแบบประมาณว่าของชั้นดีจริงตามที่ชั้นบอกนะ แต่ชั้นให้สามีไปส่งของให้
แล้วสามีแพ็คไม่ดีอ่ะ ก็นิดหน่อยเองนะ สายที่มันงอ ที่มันพับอยู่ก็เอาไปแขวนไว้สิ เดี๋ยวก็หายเองแหละ
(แต่ในที่สุดเค้าก็จำใจรับคืน เพราะเพื่อนเราไม่ยอมค่ะ เอากระเป๋าใบนั้นไปคืนถึงบ้านเค้าเลย
แต่ก็ต้องเถียงกันนิดนึงก่อนจะยอมรับคืนค่ะ)
**ขออนุญาตไม่แจ้งชื่อผู้ขายนะคะ เพราะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเองโดยตรง
และเรื่องราวก็จบลงแล้ว ถึงจะไม่ดีเท่าไหร่ก็ตามแต่**
3. ผู้ขายควรมีสามัญสำนึกต่อ "การรับคืนสินค้า" หากเกิดปัญหา ไม่ใช่พยายามเอาสีข้างเข้าแถไปเรื่อยยยยยยยย
เพื่อไม่รับสินค้าคืน

-----คนดีมีเยอะ คนชั่วก็มีแยะจ้ะ...พึงระวังไว้หนา-----

[n_noon]

ขอบคุณมากมายค่ะ

[ting_ja]

เป็นวิธีการที่ดีเลยค่ะ เยี่ยมยอด

[asiaticia]

เพิ่งมีน้องคนนึง pm มาถามว่าทำไงดีเพราะกระเป๋า LV Epi สีดำที่ได้เมื่อวานนี้ไม่ตรงกับที่คนขายลงกระทู้ไว้ เกิดลบ pm ไปแล้วด้วยเพราะซื้อของในนี้ไม่เคยมีปัญหา ก็แนะนำไปอย่างที่คุณ KAT ว่าไม่ว่าของถูกหรือของแพง เสียดายคนขายลบข้อความในกระทู้ไปแล้ว เลยแนะนำให้น้องมาลงที่ห้องร้องเรียนก่อนลงมือตามกฎหมาย เธอว่าจะเอาให้ถึงที่สุดด้วย

ใครรู้ตัวขอรับของกะน้องเค้าคืนไปยังไม่สายนะคะ เงินตั้ง 14,000 บาทเอาเขาไปแบบเขาไม่เต็มใจนี่ต้องคืนมากกว่านั้นนะคะและมันจะมาทวงคืนเอาอีตอนที่คุณลำบากที่สุดเพราะคุณสร้างความรู้สึกเลวร้ายมากๆให้กับเขา

[pavla]

เพิ่งมีน้องคนนึง pm มาถามว่าทำไงดีเพราะกระเป๋า LV Epi สีดำที่ได้เมื่อวานนี้ไม่ตรงกับที่คนขายลงกระทู้ไว้ เกิดลบ pm ไปแล้วด้วยเพราะซื้อของในนี้ไม่เคยมีปัญหา ก็แนะนำไปอย่างที่คุณ KAT ว่าไม่ว่าของถูกหรือของแพง เสียดายคนขายลบข้อความในกระทู้ไปแล้ว เลยแนะนำให้น้องมาลงที่ห้องร้องเรียนก่อนลงมือตามกฎหมาย เธอว่าจะเอาให้ถึงที่สุดด้วย

ใครรู้ตัวขอรับของกะน้องเค้าคืนไปยังไม่สายนะคะ เงินตั้ง 14,000 บาทเอาเขาไปแบบเขาไม่เต็มใจนี่ต้องคืนมากกว่านั้นนะคะและมันจะมาทวงคืนเอาอีตอนที่คุณลำบากที่สุดเพราะคุณสร้างความรู้สึกเลวร้ายมากๆให้กับเขา

อื๊มมม..คุณasiaticia ออกมาช่วยเรียกเจ้าของอีกแรงก้อดีเหมือนกันค่ะ
เคสนี้น่าจะตรงกับประเด็นการเปิดหัวข้อของคุณKAT พอดิบพอดี
LV Epi รุ่น......ถ้าบุบ ถ้าเบี้ยว ไม่เปนทรงและไม่สามารถจับใส่เครื่องดัด(ถ้ามี)ได้
แม่ดอกมะลิดำมันจะกลายเปนดอกกระถินเอาน่ะสิค๊า
LV Epi รุ่น Lead tree เอ๊อออออออออ!!!
เอาเซ่ เอาเซ่!!

[makeberry]

เราอีกคนค่ะ
และอยากเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ
ให้ผู้ซื้อและผู้ขายต่างมีความรับผิดชอบในส่วนของตัวเองค่ะ

ผู้ขาย
1. ควรมีจิตสำนึกในการขายสินค้า
ต้อง ลงรูปถ่ายสินค้าให้ชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าที่มีตำหนิ
ห้าม ใช้คำว่าสอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ/นะครับ
เพราะผู้ซื้อเค้าอาจจะดูจากการอธิบายของคุณประกอบด้วย
และเมื่อคุณไม่ได้กล่าวถึงตำหนิย่อมทำให้ผู้ซื้อเชื่อได้ว่าสินค้าคุณ
อยู่ในสภาพที่ดี หรือไม่มีตำหนิ
2. การใช้คำว่า "ไม่รับคืนสินค้า"
คุณจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อสินค้าคุณไม่มีตำหนิจริงๆเท่านั้น
กรณีสินค้าคุณมีตำหนิ ไม่ว่าคุณจะตั้งกฎอะไรไว้ก็ถือเป็นโมฆะค่ะ
3. การซื้อของคนอื่นเพื่อไปขายต่อ
ถูกค่ะสิทธิ์ของคุณ แต่คุณคิดมั๊ยคะว่าผู้ซื้อ หรือผู้ที่ขายสินค้ามาให้คุณ
แล้วเค้ามารู้ว่าคุณขายสินค้าราคาเท่าไหร่ แล้วคุณซื้อมาเท่าไหร่
เค้าจะรู้สึกยังไง "ใจเค้า ใจเราค่ะ"
4. เมื่อขายสินค้าไปแล้วคุณ "ต้องส่งสินค้าภายใน 3 วัน" ค่ะ
และเมื่อส่งสินค้าแล้ว "ควรแจ้งเลขที่ส่งสินค้า" ให้ลูกค้าทราบด้วยค่ะ
เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวคุณเองนะคะ


ผู้ซื้อ
1. ในการต่อรองราคา
ถูกค่ะ ในการซื้อขายผู้ซื้อมีสิทธิ์ต่อราคา
แต่การต่อราคาของคุณ "ควรมีสติ" นะคะ
เช่น สินค้าราคา 10000 ต่อมา 6000
คุณว่ามันสมควรแล้วจริงๆเหรอคะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะขายมั๊ยคะ
2. เมื่อคุณตกลงวิธีการชำระเงินกับผู้ขายอย่างไร
กรุณาเคารพข้อตกลงนั้นๆด้วยค่ะ
เช่น สามารถผ่อนจ่ายได้ 3 เดือนโดยจ่ายเดือนละ 10000
ในวันที่ 15 ของทุกเดือน และสมมุติว่าถ้าเดือนที่ 2 คุณไม่พร้อม
จะจ่ายในวันที่ 15 หรือไม่สามารถจ่าย 10000 บาทได้
คุณ "ต้อง" แจ้งผู้ขายให้ทราบค่ะ จะเข้าใจว่าเค้าต้องเข้าใจไม่ได้ค่ะ
หรือ เมื่อผู้ขายแจ้งว่าเมื่อ CF "ต้องโอนภายในระยะเวลาเท่าไหร่"
เมื่อคุณ CF คุณก็ควรปฏิบัติตามกฎของผู้ขายนะคะ
ถ้าเกินกำหนด ผู้ขายสามารถลงขายได้ใหม่โดยไม่ต้องแจ้งค่ะ
3. การ CF แล้วหายไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลยนะคะ
ถ้าคุณไม่สามารถซื้อสินค้าเค้าได้แล้วจริงๆก็บอกผู้ขายไปตามตรงค่ะ
ถึงเค้าจะเซ็งบ้างแต่มันคงดีกว่าที่คุณจะหายตัวไปแล้วปล่อยให้เค้ารอนะคะ
คุณคิดมั๊ยคะว่าผู้ขายเค้าเสียโอกาสที่จะขายนะคะ
เมื่อผู้ขายนำสินค้ามาลงขายนั่นก็หมายความว่าเค้าต้องการจะขายจริงๆนะคะ
และในกรณีที่ผู้ขายมีความจำเป็นต้องใช้เงินคุณรู้มั๊ยคะ
ว่าเค้าจะเดือดร้อนมากแค่ไหน "ใจเค้า ใจเราค่ะ"


ในกรณีที่มีการวางเงินมัดจำ คุณควรเข้าใจด้วยว่า
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงอีกฝ่ายสามารถยึดเงินมัดจำได้ค่ะ
กล่าวคือถ้าผู้ซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญาผู้ซื้อจะถูกยึดเงินมัดจำที่จ่ายไปแล้วแก่ผู้ขาย
และหากฝ่ายผู้ขายเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้ขายจะต้องโอนเงินมัดจำคืนแก่ผู้ซื้อ
และจ่ายเพิ่มให้แก่ผู้ซื้อเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนเงินมัดจำเพื่อทดแทนการผิดสัญญาค่ะ


สุดท้ายนี้ ถ้าเราทุกคนเคารพซึ่งกันและกันสังคม SBN ของเราก็จะน่าอยู่นะคะ
มาทำให้สังคม SBN ของเราน่าอยู่เหมือนเดิมกันเถอะค่ะ


รัก SBN ค่า

[apretty]

เราอีกคนค่ะ
และอยากเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ
ให้ผู้ซื้อและผู้ขายต่างมีความรับผิดชอบในส่วนของตัวเองค่ะ

ผู้ขาย
1. ควรมีจิตสำนึกในการขายสินค้า
ต้อง ลงรูปถ่ายสินค้าให้ชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าที่มีตำหนิ
ห้าม ใช้คำว่าสอบถามเพิ่มเติมได้นะคะ/นะครับ
เพราะผู้ซื้อเค้าอาจจะดูจากการอธิบายของคุณประกอบด้วย
และเมื่อคุณไม่ได้กล่าวถึงตำหนิย่อมทำให้ผู้ซื้อเชื่อได้ว่าสินค้าคุณ
อยู่ในสภาพที่ดี หรือไม่มีตำหนิ
2. การใช้คำว่า "ไม่รับคืนสินค้า"
คุณจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อสินค้าคุณไม่มีตำหนิจริงๆเท่านั้น
กรณีสินค้าคุณมีตำหนิ ไม่ว่าคุณจะตั้งกฎอะไรไว้ก็ถือเป็นโมฆะค่ะ
3. การซื้อของคนอื่นเพื่อไปขายต่อ
ถูกค่ะสิทธิ์ของคุณ แต่คุณคิดมั๊ยคะว่าผู้ซื้อ หรือผู้ที่ขายสินค้ามาให้คุณ
แล้วเค้ามารู้ว่าคุณขายสินค้าราคาเท่าไหร่ แล้วคุณซื้อมาเท่าไหร่
เค้าจะรู้สึกยังไง "ใจเค้า ใจเราค่ะ"
4. เมื่อขายสินค้าไปแล้วคุณ "ต้องส่งสินค้าภายใน 3 วัน" ค่ะ
และเมื่อส่งสินค้าแล้ว "ควรแจ้งเลขที่ส่งสินค้า" ให้ลูกค้าทราบด้วยค่ะ
เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวคุณเองนะคะ


ผู้ซื้อ
1. ในการต่อรองราคา
ถูกค่ะ ในการซื้อขายผู้ซื้อมีสิทธิ์ต่อราคา
แต่การต่อราคาของคุณ "ควรมีสติ" นะคะ
เช่น สินค้าราคา 10000 ต่อมา 6000
คุณว่ามันสมควรแล้วจริงๆเหรอคะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะขายมั๊ยคะ
2. เมื่อคุณตกลงวิธีการชำระเงินกับผู้ขายอย่างไร
กรุณาเคารพข้อตกลงนั้นๆด้วยค่ะ
เช่น สามารถผ่อนจ่ายได้ 3 เดือนโดยจ่ายเดือนละ 10000
ในวันที่ 15 ของทุกเดือน และสมมุติว่าถ้าเดือนที่ 2 คุณไม่พร้อม
จะจ่ายในวันที่ 15 หรือไม่สามารถจ่าย 10000 บาทได้
คุณ "ต้อง" แจ้งผู้ขายให้ทราบค่ะ จะเข้าใจว่าเค้าต้องเข้าใจไม่ได้ค่ะ
หรือ เมื่อผู้ขายแจ้งว่าเมื่อ CF "ต้องโอนภายในระยะเวลาเท่าไหร่"
เมื่อคุณ CF คุณก็ควรปฏิบัติตามกฎของผู้ขายนะคะ
ถ้าเกินกำหนด ผู้ขายสามารถลงขายได้ใหม่โดยไม่ต้องแจ้งค่ะ
3. การ CF แล้วหายไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลยนะคะ
ถ้าคุณไม่สามารถซื้อสินค้าเค้าได้แล้วจริงๆก็บอกผู้ขายไปตามตรงค่ะ
ถึงเค้าจะเซ็งบ้างแต่มันคงดีกว่าที่คุณจะหายตัวไปแล้วปล่อยให้เค้ารอนะคะ
คุณคิดมั๊ยคะว่าผู้ขายเค้าเสียโอกาสที่จะขายนะคะ
เมื่อผู้ขายนำสินค้ามาลงขายนั่นก็หมายความว่าเค้าต้องการจะขายจริงๆนะคะ
และในกรณีที่ผู้ขายมีความจำเป็นต้องใช้เงินคุณรู้มั๊ยคะ
ว่าเค้าจะเดือดร้อนมากแค่ไหน "ใจเค้า ใจเราค่ะ"


ในกรณีที่มีการวางเงินมัดจำ คุณควรเข้าใจด้วยว่า
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงอีกฝ่ายสามารถยึดเงินมัดจำได้ค่ะ
กล่าวคือถ้าผู้ซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญาผู้ซื้อจะถูกยึดเงินมัดจำที่จ่ายไปแล้วแก่ผู้ขาย
และหากฝ่ายผู้ขายเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้ขายจะต้องโอนเงินมัดจำคืนแก่ผู้ซื้อ
และจ่ายเพิ่มให้แก่ผู้ซื้อเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนเงินมัดจำเพื่อทดแทนการผิดสัญญาค่ะ


สุดท้ายนี้ ถ้าเราทุกคนเคารพซึ่งกันและกันสังคม SBN ของเราก็จะน่าอยู่นะคะ
มาทำให้สังคม SBN ของเราน่าอยู่เหมือนเดิมกันเถอะค่ะ


รัก SBN ค่า

ที่คุณ makeberry เสนอมาก็ดีนะคะ แต่เราคิดว่ามันเป็นนามธรรมไปหน่อยค่ะ
คือ เน้นการใช้จิตสำนึก สามัญสำนึกของผู้ขายและผู้ซื้อ ล้วนๆ

ยกตัวอย่าง เช่น
ข้อ 1-4 สำหรับผู้ขาย ถ้าเกิดเป็นคนที่ไม่มีจิตสำนึก ขาดความรับผิดชอบ
หรืออะไรก็ตาม โดยผู้ขายไม่บอกตำหนิ/ ไม่รับคืนสินค้า/ ซื้อเพื่อขายต่อ/ ส่งของช้า
คือไม่สามารถทำตามคำแนะนำได้ ควรจะถือเป็นความผิดร้ายแรงไหม
จะให้เกิดผลกระทบอะไรกับตัวผู้ขายหรือไม่ โปรดระบุด้วยจะดีมากค่ะ

ข้อ 1-3 สำหรับผู้ซื้อ หากคนซื้อไม่มีสามัญสำนึก ขาดความรับผิดชอบ
หรืออะไรก็ตาม โดยผู้ซื้อ ต่อแหลก/ เบี้ยวจ่าย/ CF>>>CC
คือไม่สามารถทำตามคำแนะนำได้ จะถือเป็นความผิดร้ายแรงไหม
จะให้เกิดผลกระทบอะไรกับตัวผู้ซื้อหรือไม่ โปรดระบุด้วยจะดีมากค่ะ

หากเกิดการซื้อขายขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องผ่านการใช้วิจารณญาณ
และเป็นการตัดสินใจของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ตกลงร่วมกันว่ารับได้ที่กับเงื่อนไขนั้นๆ


อีกเรื่องคือ การยึดเงินมัดจำของผู้ซื้อ หรือต้องโอนเงินมัดจำคืนแก่ผู้ซื้อ+จ่ายเพิ่ม
ให้แก่ผู้ซื้อเพิ่มขึ้นอีกตามจำนวนเงินมัดจำเพื่อทดแทนการผิดสัญญา

เรื่องเงินมัดจำก็พูดยากค่ะ คงต้องเป็นการตกลงของทั้งฝ่ายว่ายอมรับกันได้มากขนาดไหน


เราว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถ้าทำได้ก็ดี แต่คงยาก เพราะคนที่จะโกงยังไงยังไงก็โกง เชื่อดิ
เพราะฉะนั้น ทั้งคนซื้อและคนขายต้องระมัดระวัง ป้องกันตัวเองให้มากๆ เข้าไว้ค่ะ

[greenery2548]

หนับหนุนๆค่ะ
ช่วงนี้ตอนเป็นผู้ซื้อก็มีการเลือกและเช็คประวัติผู้ขายเยอะๆ (พลาดมาเยอะ)
ตอนเป็นผู้ขายยังเชื่อคนง่ายเหมือนเดิม แต่ก็พยายามแจ้งชื่อลูกค้าหน้าเว็บแล้วค่ะ

[mindmelody]

ขอบคุณคุณ KAT ค่ะ

[due]

ขอบคุณคุณKATมากๆค๊า