ผ่อน 0%ทุกอย่าง Prada messenger ขายลดไปเลย,หนังแกะย่นมิแรนด้า,กะเป๋า365วันฉันรักเธอ, Chanel หลุดมัดจำ, FENDI signature tote,messenger, Gucci (Joy Boston Duffle) รองเท้า,Walletเพียบ, เสื้อ 10 ตัว Prada signature tote,ลายทหารก็มี ETC

[Eddy]

All About Tods Bags :

(ลดได้เย้อะ ผ่อนได้ทุ้กใบ)


Tods Concept are :

-All Tods bags 'made in Italy only' มั่นใจได้ว่า Tods ไม่ประหยัดต้นทุน

-All Tods Leather is very superb quality พูดง่ายๆคือ Tods รุ่มรวยและรักษาชื่อเสียงของตัวเองมาก จึงเลือกแต่หนังคุณภาพสูงมาผลิตเท้่านั้น(ตัวอย่างอันแสนโด่งดังคือ Tods signature 'D-Bag')

-Tods Nylon จะต้องเบา / ดูวิงค์ๆ เป็นประกาย แต่สุภาพ classic แบบมีรสนิยม และ จะต้องดูมีโครงสร้าง คือถือแล้วไม่ลีบติดตัวไนลอนอย่าง Prada (ตัวอย่างอันแสนโด่งดังคือ Tods signature 'Pashmy')

-Tods จะไม่เลือก Presenter ที่เป็นดารา หากแต่ Todsจะเลือก ะต้องเป็นคนที่รักศิลปะ มีวิถีการใช้ชีวิตทีี่น่าสนใจจิงๆ เพาะ presenter ของ Tods จะต้องเป็นกลุ่มที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ match กับการสร้างสรรค์ของ Tods จิงๆ ไม่ใช่ถือเดินสวยไปวันๆ งานของ Tods ไม่ใช่กะเป๋า แต่เป็นงานศิลปะ เปียมไปด้วยคุณภาพ สรรสร้างเพื่อคนมีรสนิยม และมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจเท่านั้น







Tods จัดเป็นแบรนด์สัญชาติอิตาลี ที่ทุกคนจะต้องหันมามองเป็นตาเดียว อันเนื่องมาจากไม่มีกะเป๋าแบรนด์ใดที่อายุน้อยขนาดไม่มีกีสิบปี แต่สามารถเทียบชั้นได้กับแบรนด์ hi-end อื่นๆ ที่มีต้นกำเนิดมานานกว่าหลายเท่านัก จริงๆว่าไป ไอ้ความที่กำลังเริ่มดังนี่แหละ งานของ Tods ทุกชิ้นตอนนี้จึงเรียกว่าได้ประณีต และมีคุณภาพ (เหมือน LV ตอนยังไม่ดัง ที่กะเป๋าทุกใบสมัยนู้น มีคุณภาพมากๆ)

วัสดุที่ Tods นำมาใช้เกรดจะดีมากๆ เอ้ดดี้บอกได้เลยจับกะเป๋าหนังมานาน หนังของ Tods นี่มีคุณภาพมากที่สุด

งานฝีมือระดับช่างอิตาลี เนื่องจากตอนนี้ Tods กำลังเริ่มดัง งานทุกชิ้นของเค้าตอนนี้ยังสงวนทำในอิตาลี ดินแดนที่ค่าแรง ช่างฝีมือแพงอันดับ 1 ของโลก งานอิตาลีที่ประณีต ไม่มีที่ติ งานยากของแบรนด์ ฝรั่งเศสอย่าง LV หรือ YSL ก็ต้องมาอาศัยอิตาลีนี่แหละในการผลิต กะเป๋า Tods ทุกใบจึงมั่นใจมากได้จิงๆ หากในอนาคต Tods เกิดโด่งดังมากกว่านี้ ผลิตไม่ทัน แน่นอนว่า Tods ต้องย้ายฐานผลิตแน่ๆ


ขณะ ที่ทุกแบรนด์ใช้ ดารา นางแบบ ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก มาเป็น presenter เป็น Tods นี่เลยที่กล้าแตกต่าง บอกว่า presenter ที่เค้านำมาจะต้องเป็นคนที่รักศิลปะ มีวิถีการใช้ชีวิตทีี่น่าสนใจจิงๆ เพาะ presenter ของ Tods จะต้องเป็นกลุ่มที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ match กับการสร้างสรรค์ของ Tods จิงๆ ไม่ใช่ถือเดินสวยไปวันๆ งานของ Tods ไม่ใช่กะเป๋า แต่เป็นงานศิลปะ เปียมไปด้วยคุณภาพ สรรสร้างเพื่อคนมีรสนิยม และมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจเท่านั้น


พิสูจน์ความรักและการส่งเสริมในศิลปะของ Tods อันได้แก่ การทุบงบจำนวนมากกว่าทุกๆ hi-end แบรนด์ในอิตาลี เพื่อบูรณะ โบราณสถานอันเป็นรากเหง้าของประเทศอิตาลี เช่น สนามกีฬาโคลีเซียม น้ำพุเทรวี่ หรือ บันไดสเปน เพราะ Tods รู้ดีว่า ที่อิตาลีได้รับการยกย่องในเรื่องการผลิตกะเป๋าขนาดนี้ มาจากรากเหง้าการสืบต่อศิิลปะ วัฒนธรรมของบรรพบุรุษ ตั้งแต่ยุคโรมัน Tods จึงไม่เคยลังเล เพาะ Tods เชืือว่า เหล่านี้คือรากเหง้าที่ทำให้ กะเป๋า made in Italy แข็งแกร่ง ไร้เทียมทาน และต่อยอดการสรรสร้างศิลปะการทำกระเป๋ามาจนถึงยุคปัจจุบัน และนี่เองที่ทำให้ Tods โด่งดังเร็วมากในปัจจุบันนี้


ในขณะที่ทุก hi end แบรนด์กำลังระส่ำด้วยพิษเศรษฐกิจ เป็น Tods ที่ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากสายป่านที่ยาวจัด ธุรกิจกะเป๋าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแบรนด Tods Tods ทำอะไรอีกเยอะแยะมาก นั่นหมายความว่า Tods ก็ยังสามาถที่ยืนหยัดในคุณภาพได้ระดัยดีเยี่ยมเหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายใช้วัสดุเกรดต่ำ หรือไปทำ นอกอิตาลี

ตัวอย่างอันได้แก่ การสรรสร้างรองเท้า loafer อันโด่งดัง ที่เรียกว่า Tods driver shoe หลากสีสรรคเจ็บๆของ Tods รองเท้าที่ตอนนี้โด่งดังกว่า hi-end ทุกแบรนด์ไปแล้ว

1. สีเจ็บๆภายใต้สนธิสัญญายุโรปที่ว่า วัสดุที่นำมาย้อมสีจะต้องเป็นวัสดุจากธรรมชาติเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะน้ำทิ้งทำลายสิ่งแวดล้อม แล้วคิดดูนะว่าสีเจ็บๆเหล่านั้น ต้องหาใบไม้ใบหญ้าขนาดไหน และสีจะต้องเป๊ะ ขนาดไหนลองไปคิดดู ว่าการหาวัสดุธรรมชาติและสีที่เจ็บและเป๊ะ จะหายากส์ขนาดไหน แต่ Tods ก็ยังสามาถ และทำออกมาได้ดีด้วย

2. รองเท้า loafer พวกนั้น จะมี เม็ดๆ ติดรอบ ตลอดตัวรองเท้า อันเป็นที่รองพื้นรองเท้า เม็ดๆเหล่านั้น เรียกว่าเป็นสัญญลักษณ์ signature ของ Tods เลยก็ว่าได้ แต่บอกได้เลยว่า เม็ดๆ signature เหล่านั้นจะต้องมีจำนวน และการเรียงตัวที่เหมือนกันทุกคู่ และทีีสำคัญเม็ดๆเหล่านั้นไม่ไ้ดใช้กาวแปะ แต่ Tods ทำเป็นร่องเล็กๆ ให้เม็ดเหล่านั้นมาล้อคเข้าไป! ซึ่งยากส์ และใช้แรงงานช่างฝีมือมากๆ เนื่องจากทุกเม็ดและทุกร่องจะต้องเข้าล็อคกันสนิทแนบแน่นพอดี สุโค่ยมากๆ





กะเป๋า Tods 3 ใบเก๋ๆ ทั้ง 3 ใบ

ใบแรก : Signature Tods Pashmy with 'Alligatorชนะทั้งกะเป๋าของ Victoria Beckham และ อั้มพัชรภา แต่ราคาถูกกว่า เยอะมาก


Tods Pasmy ไนลอน เก๋ๆ วิง้ค์ๆ สไตล์ของ Tods แน่นอ เมื่อ Tods ริจะทำ ไนลอน ไนลอนของ Tods ต้องแตกต่างแน่นอน
ด้วย 3 คอนเซบ 1.นน.ต้องเบา 2.ไนลอนต้องดูวิ้งค์ๆ ห้ามดูเป็นไนลอนธรรมดาๆ และ 3. ต้องทำเ็ปน นวมๆเพื่อให้ดูมีค่ามีราคา หากแต่ต้องยังคงนน.ที่เบาให้ได้
มิแปลกใจไยทำไมกะเป๋ารุ่นนี้ จึงมีดาราฮอลลีวู้ด celebrity มาใช้กันให้พรึ่บ พรับ Gynett Patttrow เป็น 1 ในดาราออสการ์ ทีี่นิยมชมชอบกะเป๋ารุ่นนี้มาก

หากแต่กะเป๋า Tod Pashmy ของเอ้ดดี้มีบางอย่างที่แม้ว่า กะเป๋า Hermes - Birkin ของ อั้มหรือ ชมพู่้ก็สู้ไม่ได้ เพราะ ....
Signature Tods Pashmy with 'Alligator ชนะทั้งกะเป๋าของ Victoria Beckham และ อั้มพัชรภา แต่ราคาถูกกว่า เยอะมาก


กะเป๋า Signature Tods Pashmy รุ่นไน ลอน ใบใหญ่อเนกประสงค์ แต่ นน.เบา มากๆใบนี้ ถือเป็น 1 ใน signature ของ Tods อันเป็น original signature ต้นกำเนิดของ Tods เลยที่เดียว.... โดย Tods จะตั้งชื่อเก่ๆว่ารุ่น ‘Pashmy’ ซึ่งใช้นางแบบ ระดับ ดาราออสการ์ Gynett pathow ซึ่งเธอ ปลื้ม Tods Pashmy มากๆเลยทีเดียว...

กะเป๋าที่เอ้ดดี้นำมาลง จัดว่าเป็นกะเป๋ารุ่นเดียวเลย ที่ Pashmy ตั้งใจทำมาเพื่อให้คุณผู้ชายเก๋ๆ ได้ใช้ brandname ที่มีระดับมีรสนิยม และไม่เหมือนใคร ด้วย Tods ใบนี้ ใบใหญ่พอตัว และด้วยการ design รูปทรงที่ ไม่ใช่ messenger ที่ดูแข็งทื่อ กว้างยาว เท่ากัน messenger เยอะ... โดย.....
กะเป๋าใบนี้จงใจ design ให้ฐานกะเป๋าใหญ่กว่า เพื่อสร้างรูปแบบการถือให้มันดู เก๋กว่า messenger เมื่อเราเอาขึ้นไหล่ กะเป๋าจะถูกห่อขึ้นมาจากฐาน กลายเป็น แบบทรง Ho-Bo มันจึงนับเป็นการ design กะเป๋า ที่สุดยอดจริงๆ!! ผู้ชายจึงสามารถมีกะเป๋าที่ฉีกแนว จาก ทรง messenger ทื่อๆอันแสนจะโบราณ และ conservative กะเป๋าใบนี้จึงทั้งเก๋ และผู้ชายถือ ได้อย่างไม่เคอะเขิน นอกจากนั้น กะเป๋าใบนี้ ยัง design ให้ shoulder strap ปรับความยาวได้ ตลอดสาย เพื่อให้คุณผู้ชาย สามารถเปลี่ยนรูปแบบการถือ ได้ตั้งแต่ ถือแบบ สายสั้น หรือ ลงมาก่อนเอว หรือ ต่ำกว่าเอว หรือ สะพายเฉียงเป็น messenger หรือ ยังสายสั้นลงมาหน่อยแล้วไขว้ติดแผ่นหลังแบบ ดารา เกาหลี แล้วคาดหมวก แอบหลบ paparazzi อิอิอิ

1. ถือเป็นกะเป๋าระหว่างวัน ไปทำงาน ได้ และ

2. พร้อมกันนั้นก็ยังถือไปเจเจ ในวันหยุดเก๋ๆ ไม่ดูเว่ออร์ แต่ใครๆก็มองเพาะมันสวยมีรสนิยม


3. และที่สำคัญสามารถนำไปเดินทางได้ overnight 1 ถึง 2 วันได้ อย่างเหมาะเหม็ง

กะเป๋ารุ่นนี้ทำจากไนลอน อย่างดี สรรสร้างให้ดูเป็น นวมๆ ดูเพิ่มค่าใหกะเป๋าใบนี้ อีกทั้ง วัสดุไนลอนมันเป็นไนลอนที่ดีที่สุดของโลก มันจึงทนทานมากและไม่หนักเลย
แต่ Tods ก็ยังไม่หยุดความเก๋ของกะเป๋าใบนี้ ..... อะไร ยังไง เหรอ?



***** และที่สำคัญ กะเป๋าใบนี้เหนือกว่า กะเป๋า Hermes Himalaya 4 ล้าน ของ Victoria Beckham และของอั้ม-พัชรภา อันแสนจะอื้อฉาว ตรงที่

..... ฟังดีๆนะ.... ปกติ กะเป๋าที่เปนไนลอนของทุกแบรนด์ อย่างมากก็จะเอาหนังเอามาเป็นส่วนประกอบ เพื่อทำให้กะเป๋ามันดูหรูหรา มีค่าขึ้น ไม่ใช่มีแต่ไนลอน ที่เหนดาษดื่นก็เป็นหนังวัว ... อยากเพิ่มค่าก็เอาหนังวัวมา พิมม์ลาย งู , จระเข้ ก็แค่นั้น (แต่มันก็ยังเป็นหนัง วัว ที่ราคาต่ำสุดอยู่ดี)
หากแต่ใบนี้ ส่วนที่เป็นหนัง ทำมาจาก หนังจระเข้แท้ๆ! ซึ่งทุกคนรู้กันอยู่แล้ว ว่า หนังจระเข้ นั้นแพงกว่า หนัง วัว แกะ แพะ นกกระจอกเทศที่ว่าแพงแล้ว ก็ แพงไม่เท่าหนังจรเข้!! แต่จระเข้ที่ กะเป๋า Tods ใบนี้นำมาใช้มิใช่ จระเข้ธรรมดา แต่เป็น สายพันธุ์สน ‘Alligator’ ขอบอกว่า Alligator เป็นจระเข้สายพันธุ์ ที่สืบเชื้อสายมาจาก ยุคไดโนเสาร์ ที่มีมาหลายหมื่นล้านปี Alligator เป็นจึงจัดเป้นจระเข้สายพันธุ์เดียวที่ มาจาก ยุคสมัยที่โลกยังมี ไดโนเสาร์อยู่ ....มันจึงเป็นจระเข้ที่ตัวใหญ่กว่า จระเข้ทั่วไป เนื่องด้วยกรรมพันธุ์มันดีมาก หนัง Alligator จึงจัดเป็นหนังที่มีค่าสูงส่งมาก เพาะ มันคือ จระเข้ใหญ่ ดึกดำบรรพ์....สังเกตไหมว่า เค้าจะไม่จัดเรียกจระเข้ Alligator ว่า crocodile เพาะเค้าจะให้เกียรติสูงสุดกับ จระเข้ Alligator ประเภทนี้....

ด้วยชาติกำเนิดตามการเลอค่าของ Alligator มันจึงมีราคาแพงมากกว่า หนัง crocodile เยอะมากซึ่ง หนังจระเข้ ที่เป็น รุ่นของกะ เป๋า Hermes Himalayan 4 ล้าน ของ Victoria Beckham และของอั้ม-พัชรภา เป็นแค่ crocodile น้ำเค็ม มันจึงเทียบไม่ติดกับ Alligator ของกะเป๋า Tods รุ่นของ Eddy ใบนี้ !

ข้อสังเกตของความแตกต่างของ ‘Alligator’ กับ หนัง Crocodile คือ

-หนังของ Crocodile ไม่เรียบเสมอ มันจะมีจุดดำ น่าเกลียดๆ กระจายทั่วแผ่นหนัง ขณะที่ Alligator เป็นจระเข้ชั้นสูง หนังจะ เรียบสวย ไม่มีที่ติ ชาติตระกูลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง




ใบนี้ไง ของ Hermes Himalayan สวยยังไง ทำไล่สีขนาดไหน ก็มิสามารถลบลายตำหนิจุด อันเป็นกรรมพันธุ์ จากจรเข้น้ำเค็มได้หรอก...อิอิอิ *****





- alligator กิน สัตว์ขนาดเล็กเช่น เต่า หอยและปลา ปากของมันจึงออกแบบมาให้สามารถรับแรงกดได้เวลาที่มันต้องใช้ปากเพื่อแกะหรือ เปิดเปลือกหอยและกระดองเต่า ผิดกับ crocodile ที่เหยื่อส่วนใหญ่ของพวกมันจะเป็นสัตว์ที่มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงสัตว์เลี้ยง ลูกด้วยน้ำนมขนาดใหญ่ ทำให้ปากของมันถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงและออกแรงกัดได้มากเป็นพิเศษ

-alligator มีนิสัยที่อ่อนยอน เว้นเสียแต่ว่ามันจะรู้สึกว่าถูกรบกวนหรือถูกบุกรุกอาณาเขต ซึ่งผิดกับ crocodile ที่มีนิสัยก้าวร้าวกว่า พวกมันสามารถฆ่ามนุษย์ได้....
เหนมะ crocodile นอกจากเกิดมามีตะปุ่มตะป่ำยังกะตัวตะกวด ไม่สวย แล้วยังใจร้ายอีก กินคนที่ กะเป๋าหนังมันด้วย
แสดงว่าหนังของมันมาจากอาหารที่เป็นเนื้อมนุษย์ นั่นเอง


รับไปเลยกับกะเป๋า นวม ที่ ทนทานที่สุด และ เบาที่สุด ประกอบกับหนัง alligator ที่นำมาเป็นส่วนประกอบ ที่ไม่มีวันที่ Hermes Himalay ของ Victoria Beckham หรือ อั้ม จะมาเปรียบได้....





คลิ้กลิงค์ ไปดูรูปเพิ่ม/ราคา -->http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=2321067













เป็นพยานด้วย คำๆ นี้ คำเดียว..... Real Alligator! ที่ Hermes ก้ไม่กล้าทำ เพราะมันแพงมากกกก ... Birkin Himalayan คือ จรเข้น้ำเค็มที่หนังมีตะปุ่มตะป่ำ ขณะที่ Alligator หนังสวยและไม่มีรอยจุดดำ ใบนี้จึงสวย และเลอค่ามาก' ... เพาะAlligatorคือ จรเข้ที่สืบสายพันธุ์มาจาก บรรพบุรุษสมัย Jurassic
ไดโนเสาร์ !
ใครที่ในชีวิตนึงอยากใช้กะเป๋าหนังที่ special และแพงมากๆ อย่างหนัง Alligator ที่เหนือกว่า Victoria Beckham หรือ อั้ม เอ้ดดี้แนะนำกะเป๋าใบนี้เลยนะ จริงๆ และถูกด้วย











มีความหรูหรา โดยการใช้ หนัง Alligator ที่เหนือกว่า หนัง Crocodie ของ Victoria ในทุกจุดเด่นๆ















ช่องเยอะมาก ๆๆๆ ทั้งลับ และไม่ลับ ซึ่งแบรนด์เนมเค้าจะเก๋มากตรงที่ design ให้ดูเหมือนราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยช่ิองลับและอเนกปประสงค์มากมาย ดู ไม่เยอะ เรียบ หรู แต่ครบ !!





















มีความหรูหรา โดยการใช้ หนัง Alligator ที่เหนือกว่า หนัง Crocodie ของ Victoria ในทุกจุดเด่นๆ


















Tods Nylon Pashmy วิ้งค์ๆ 39,500 บาท
ใบนี้ เป็น 'Real Aligator' (ตามภาพเลย) จึง เหนือชั้นกว่า Birkin-Himalayan ราคา 4 ล้าน ของ Victoria Beckham, อั้มพัชรภา หรือ ชมพู่อีก

[Eddy]

Celebrity in Tods Pashmy

ใบนี้เลย แต่เป็นแนว East - West
Pactrick Demsey ผู้ซึ่งได้รับการ VOTE for the sexiest men Alive! Todsของเค้าน่ะ 6 หมื่นนะจ้ะ
ของ eddy ถูกกว่าเย้อะ.. ผ่อนได้อีก







Naomi Watts นางเอกหนังออสการ์คิงคอง กับ Tods'Pashmy


Gynett Pattrow นางเอกออสการ์แฟนตัวยงของ Tods Pashmy




Hale Bary นางดอกออสการ์อีกคน miss usa -miss world
เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้แบรนเนมเท่าไร แสดงว่า Tods ใบนี้ถูกใจเธอมาก

[Eddy]

2. Demim tote ทรงที่เก๋และ classic ที่สุด การใช้ผ้า Denim ช่วยเบรคเกมการแต่งตัวไม่ให้ดูจัดเต็มมากเกินไปนัก เพิ่มค่าด้วยการปัก Tods สัญลักษณ์ signature ลงไปแบบนููนสูง ถือมือ / คล้องแขน / สะพายขึ้นไหล่ เก๋มาๆ ถึงมากที่สุด หูกระเป๋าปรับระดับได้ด้วย จึงขึ้นไหล่ได้อีก! เหมาะกับการถือในทุกโอกาส ใัน ธรรมดาไม่ให้ดูหรูหราไปวันหยุดนี่ใช่เลย ไปเดินเจเจ รับปะกัน shop ไทยไปห่อให้ได้

29,500 บาท

[Eddy]

ประวัติ Tods (เึครดิตคุณ mulberrymulberry)





=========================================================















สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว SBN ที่น่ารักทุกท่าน ได้เวลาอันสมควรที่จะเขียน Blog อีกซัก Blog ซะที อยากมานานแล้วหล่ะ แต่ว่าไม่มีเวลาว่างๆ เบาๆ วันนี้แหละเป็นโอกาศอันสมควร ข้อความต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ และเป็น fact ของ brand TOD’S ที่ขอ share เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว SBN ที่อาจจะชอบหรือเริ่มสนใจ Brand นี้ขึ้นมาค่ะ

ขอแนะนำตัวนิดส์นึงนะคะ id mulberrymulberry นี่เริ่มต้นจากเลิฟ brand mulberry แหละค่ะ ชอบมากเลย มีหลายใบตอนนี้ขายไปหมดแล้วเพราะ ปันใจไปรัก brand อื่นเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้อยากเปลี่ยน id มาก ก็เปลี่ยนไม่ได้แล้วสิ งือๆ ไม่เป็นไรๆ

หลังจากได้ใช้มาหลากหลาย brand ถึง ณ ตอนนี้ก็ได้เทใจให้กับ brand TOD’S ไปหมดใจแล้วค่ะ ด้วยเหตุผลเรื่อง คุณภาพดี ราคาถูก (ไม่ใช่ว่าถูกมากมายนะคะ แต่ราคาที่ 4x,xxx เราสามารถซื้อกระเป๋าคุณภาพดีมากๆ ของใหม่ได้ 1 ใบไม่เหมือน brand อื่นที่เป็นหลักแสนแต่ได้อะไรมาก็ไม่รู้ แหะๆ ไม่กล้าเอ่ยชื่อ brand แต่ไม่ใช่ Chanel และ Hermes นะคะ ^_^!)

และอีกอย่างเมื่อใช้ Tod’s แล้วจะพบว่า ทนทาน ใช้ง่าย ไม่ต้องระวัง ไม่เป็นภาระ และ Function การใช้สอยดีมากๆ ที่บอกว่ากระเป๋าไม่เป็นภาระก็เพราะว่า บาง Brand ทำออกมาแล้วต้องระวังมากเมื่อใช้งานค่ะ รู้ๆ กันอยู่แบรนด์ไหนหนอ..... ถูกต้องแล้วค่ะ ก็น้องแนลนั่นไง แต่เราก็มีเหมือนกันนะ น้องแนลเนี๊ยะ สวย น่ารักง่ะ ต้องยอมๆ มีหลายบล็อคนะคะที่เอ่ยปากชมงานคุณภาพของ Tod's ว่าเป็นน้องๆ Hermes เลยทีเดียว ก็เห็นด้วยอ่ะค่ะ ของเค้าดีจริงๆ แหละ

แรกเริ่มเดิมที TOD’S เป็นร้านเล็กๆ ในครัวเรือนค่ะ ทำรองเท้าอย่างเดียวตั้งแต่ปี 1920 ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า J.P. Tod's และหลังจากนั้นก็ สั้นลงเหลือ TOD'S ทำไปทำมาเป็นธุระกิจใหญ่โต และก็งอกแบรนด์ Hogan และ Fay เป็น แบรนด์ในเครือค่ะ รูปแบบของแบรนด์นี้นะคะ หลายท่านมองว่า “เชย” หรือไม่ก็ “แก่” ค่ะ ส่วนตัวแล้วก็เห็นด้วยแหละค่ะในตอนแรก เรียกได้ว่าไม่ได้ประทับใจเลยหล่ะค่ะ เพราะช่วงแรกของการใช้กระเป๋า Hi End ก็ชอบอะไรๆ ที่เป็นกึ่ง Fashion กึ่ง Classic นี่แหละ เห็นรูปแบบของ Tod’s ในช่วงแรกออกจะงงๆ กับ Design กระเป๋าทำไม่ถึงเรียบอย่างนี้หนอ นานๆ เข้า มองไปมองมา เอ๊ะ มองยังไงก็ไม่ตกยุคนะนี่ เรียบหรู ดูคม ฝีเย็บสวย เสมอกัน เห็นใครๆ หิ้วแล้วมันช่างเท่ห์และ classic เหลือหลาย อย่างนี้ต้องลองๆ และแล้วเมื่อได้มาใช้แล้วขอ confirm ค่ะว่า การใช้สอยดีมาก ตามที่ใน Blog ฝรั่งเขียนไว้ว่า “with Tod’s bags you need to hold and play with it to really appreciate it. They are truly more than meet the eyes” : http://www.purseholic.com/topics/tods/
ดังนั้นกระเป๋า brand Tod’s ต้องลองใช้ค่ะ ต้องลองๆ ถึงจะรู้ค่ะ

นอกจากนี้ สาวที่ทำงานสาย Design พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Brand นี้สวยเก๋ เหมาะสมที่คุณเธอที่จะซื้อมาใช้ค่ะ คุณเพื่อนสาวๆ สถาปนิก และอินทีเรียทั้งหลายจะออกปากชมกระเป๋ายี่ห้อนี้ ใบอื่นๆ ที่หิ้วไปให้เห็น แพงกว่านี้หลายเท่าตัว ไม่เคยได้รับคำชมเลยค่ะ เช่น Dior Chanel ไรงี้ค่ะ แค่มองแล้วก็ถามเจ๋ยๆ ว่ากระเป๋าอะไรอะเธอ

Tod’s นี่ดังในอเมริกาและอังกฤษค่ะ เหล่า Celeb Hollywood จะมีใช้มากมาย โดยเฉพาะรุ่นสุด Classic D Bag, G Bag, Pashmy, 24H และ Miky รุ่นอื่นๆ ที่สวยก็จะมี Upper Bag ค่ะ รุ่นที่เป็น Classic items ของ Tod’s เลยก็ คือ D Bag และ G Bag นะคะ ตอนนี้ก็ได้ออกรุ่นใหม่เพิ่มค่ะ คือ D.D. Bag และ Miky ก็ Restyling ใหม่ค่ะ สวยเก๋และเท่ห์ใช่เล่นค่ะ ตอนนี้เห็นว่าบ้านเราก็เริ่มเห็น Brand นี้เพิ่มมากขึ้นแล้วค่ะ ดีใจ มี Tod’s Lover เพิ่มมากขึ้น กระเป๋า Tod’s จะเป็นที่รักของแฟนพันธุ์แท้ค่ะ ซื้อแล้วก็จะซื้อเรื่อยๆ สามารถซื้อได้คราวเดียวหลายๆ ใบไม่คิดมาก ลูกค้าใน SBN เป็นเช่นเดียวกันนี้หลายท่านค่ะ ซื้อทีเดียวหลายใบ

บ้านเรามีร้าน Tod’s ที่ Paragon ที่เดียวค่ะ ในร้านบางทีก็ทีลดราคา 30% 40% ไปเรื่อยๆ และนานๆ ทีก็จะมีลดกระหน่ำพร้อม Brand ในเครือบริษัทที่นำเข้าซักครั้งค่ะ ลดที 70% เลยเชียว ไปสายแค่ไม่กี่ชั่วโมงเหลือแต่ไก่กาแล้วค่ะ
การบริการของร้าน Tod’s ดีมากค่ะ ซ่อมได้ตลอด และไม่คิดค่าอะไหล่เลยค่ะ คิดแค่ค่าแรงเปลี่ยนอะไหล่เท่านั้นค่ะ แค่รอเวลาเค้าสั่งอะไหล่เท่านั้นค่ะ นานหน่อยค่ะ เค้าเอาไปซ่อมที่ Mr. Bag Fix นะคะ ไม่ใช่ว่ามี In House แต่ก็ดีกว่าเราเอาไปเข้า Bag Fix เองค่ะ

ที่นี้ เรามาเริ่มรู้จักรุ่นต่างๆ กันดีก่าน้า จะพูดถึงละเอียดหน่อยกับกระเป๋าที่ ฮิตมากๆ และยังมีใช้กันอยู่มากๆ นะคะ D Bag, G Bag และ Pashmy ค่ะ เริ่มด้วยรุ่นที่ฮิตที่สุดเลยค่ะ D Bag

Tod’s D Bag
เจ้าหญิงไดอาน่าใช้ค่ะ (อีกแล้ว เหมือน Lady Dior ) ก็เลยได้ชื่อว่า D Bag (D for Princess Diana) กระเป๋ารุ่นนี้ มีการ Restyling มาไกลมากเลย ไม่รู้มีกี่รุ่นแล้วค่ะ ส่วนตัวคิดว่า D Bag รุ่นล่าสุดเก๋มากๆ ค่ะ D Bag มีหลาย Version นะคะ รุ่นที่เห็นว่ายังมีใช้กันเยอะแยะก็คือ D Bag Manici และ D Bag Bauletto นะคะ D Bag Bauletto เป็นรุ่นที่ฮิตกว่าค่ะ และส่วนตัวก็คิดว่าสวยเท่ห์ที่สุดด้วยค่ะ มาดูตระกูล Tod's D Bag กันนะคะ

D Bag Bauletto ค่ะ
รุ่นนี้ชอบมากๆ เลยค่ะ เท่ห์อ่ะ กระเป๋า Tod’s Bauletto ใบนี้เป็น Restyling โดย Derek Lam นะคะ Derek Lam design ให้ Tod’s เพื่อที่จะเป็นรุ่น Classic ของ Tod’s เหมือนกับที่ Kelly เป็น Classic ของ Hermes ค่ะ: http://www.bagsnob.com/2009/05/tods_d_bag.html ดังนั้น D Bag Bauletto นี้เป็นรุ่น Classic และ Icon ของ Tod’s ที่มีขายใน Shop ตลอดนะคะ ไม่มีตกรุ่น Hit เหลือหลายสำหรับเหล่า Celeb ใบนี้เป็น 2 zip รูดมาตรงกลางค่ะ ชอบตรงนี้นี่แหละ และมีสายสะพายที่สามารถ สะพายที่เกี่ยวที่หูซ่อนที่ Top Handle หรือ Side loop ก็ได้ค่ะ ใบนี้มี 3 ขนาดค่ะ จิ๋ว เล็ก กลาง และเห็นไซส์ใหญ่ด้วยค่ะ เป็นกระเป๋า Weekend Bag ส่วนตัวก็มี 3 size เลยค่ะ หนังที่ทำออกมามีหลากหลายค่ะ มีทั้งหนัง Calf และ Buffalo และหนัง Exotic เช่น งู และ จรเข้ และ ก็มี Fur ด้วยค่ะ หนัง Calf ของ Tod’s จะทนทาน ไม่แพ้น้ำนะคะ มีทั้งซึมน้ำแล้วแห้งไม่เหลือร่องรอย และไม่ซึมน้ำเลยค่ะ ดังนั้นกระเป๋าหนัง Tod’s จะไม่ด่าง ยกเว้นว่าเค้าใช้หนังสดทำกุ้นตามขอบบ้าง เช่นที่ทำใน G Bag Coated Canvas ค่ะ

เรามาดูรูป 3 size 3 พี่น้องกันค่ะ ใบเล็กๆ ก็น่ารัก ใบกลางก็กำลังดีเลย ส่วนใบใหญ่นี้เท่ห์เหลือใจค่ะ
ภาพจากhttp://rdujour.com/2012/04/05/tods-d...r-spring-2012/

3 พี่น้องข้างล่างนี้ของเค้าเองแหละ อิ อิ ^_^

Mini น่ารักมากๆ ค่ะ ถืออกงานบ่อยค่ะ สะพาย Crossbody ได้ด้วยค่ะ

Piccolo กำลังพอดีค่ะ ถือแล้วน่ารักๆ ค่ะ เป็น Everyday Bag ที่กำลังสวยค่ะ ไซส์นี้เป็นไซส์ฮิตเลยค่ะ ใบนี้เวลาใช้ ชอบเกี่ยวสายสะพายค่ะ ใบนี้หนังซึมน้ำ แห้งแล้วไม่ทิ้งร่องรอยค่ะ เคยตากฝนเปียกทั่วกระเป๋าค่ะ พอแห้งแล้วไม่เป็นไรเลยค่ะ เป็นกระเป๋าสีอ่อนมากๆ ที่ใช้แล้วไม่ต้องกังวล

ใบนี้ของเค้าๆ ^_^

ซ้ายคือไซส์เล็กนะคะ ขวาคือไซส์กลางค่ะ เอามาจาก Web http://www.bryanboy.com/bryanboy_le_superstar_fab/2011/07/sisterly-edition-tods-d-bag.html/image-0-1310651052

Medio ไซส์นี้ถือแล้วเท่ห์มั๊กๆ อะค่ะ ขอบอกว่าน้ำหนัก พอๆ กันกับ Piccolo ค่ะ ไซส์นี้ก็เป็นไซส์ฮิตมากกว่าไซส์เล็กนะคะสำหรับฝรั่งค่ะ ใบนี้เวลาใช้ไม่ชอบเกี่ยวสายสะพายเท่าไหร่ค่ะ ชอบเอาขึ้นบ่ามากกว่า เท่ห์มั๊กๆ อ่ะ
ภาพจากhttp://www.elle.co.kr/article/view.asp?MenuCode=en010101&intSno=237

D Bag Manici ค่ะ
ส่วนตัวเคยเป็นเจ้าของ 3 ใบค่ะ ได้ขายไปแล้วหล่ะ ใน SBN รุ่นนี้ชอบความ Classic และใช้ง่ายของกระเป๋าค่ะ เวลาปิดกระเป๋า zip สามารถ Lock ได้อีกต่างหาก สายสะพายยาวก็มีให้ค่ะ ปรับความยาวได้ด้วย รุ่นนี้มี 2 size ค่ะ เล็กและกลางค่ะ ไม่เคยเป็นเจ้าของขนาดเล็กนะคะ

ภาพจาก http://luxpresso.com/news-couture/pick-of-the-week-kareena-kapoors-bag/11861

อันนี้เป็นุร่นใหม่ค่ะ ยังอยู่ในช็อปค่ะ ภาพจาก http://www.tods.com/us/d-styling-sma...her-tote-bag-2

D Bag Version อื่นๆ ค่ะ
D Bag Bauletto Zip
ภาพจาก http://www.purseholic.com/reviews/tods-d-bag/

D Bag Shoulder Tote
ภาพจาก http://www.shopstyle.com/browse/handbags?fts=tod's

Tod’s G Bag Easy Sacca
รุ่น G Bag เป็นกระเป๋าทรง Bucket ค่ะ คือเป็นทรงกระป๋องค่ะ เราจะเป็น G Bag มากที่เป็นวัสดุ Coated Canvas ค่ะ วัสดุตัวนี้เป็นวัสดุกันน้ำนะคะ ไม่เปียกน้ำเลยค่ะ และแต่ละ Season จะมีสีสันตาม Season เลยมีให้เล่นสีเยอะแยะค่ะ ส่วนตัวรุ่นนี้ซื้อหลายใบมาก เพราะก็ชอบหลายสี ตัวสายสะพายคู่จะขึ้นบ่าได้ และก็มีสายสะพายยาวให้สามารถสะพาย Crossbody ได้ด้วยค่ะ เคยถือไปต่างประเทศช่วงฝนตกพอดี ปรากฎว่าใช้งานดีมากๆ เพราะของในกระเป๋าไม่เปียกฝนเลยค่ะ นอกจากนี้วัสดุ สามารถทำความสะอาดได้ง่ายมากๆ อีกด้วยค่ะ ส่วนรุ่นที่ทำจากหนังก็จะสวยมากๆ ค่ะ ฮิตมากในเหล่า Celeb อีกเช่นกัน G Bag ที่เคยเห็นที 3 Size นะคะ คือ Mini(จิ๋ว) Piccolo(เล็ก) Medio(กลาง) และ Grande(ใหญ่) ส่วนตัวเคยใช้ขนาด จิ๋ว กลางและใหญ่ค่ะ

ภาพจาก http://news.instyle.com/2009/08/28/s...ll-tods-g-bag/

ภาพจาก http://www.designerhandbagspro.com/t...inet-peltorou/

Size Mini ค่ะ ภาพจาก http://news.chinatimes.com/LifeContent/1401/20100403000688.html

ภาพจาก http://www.libertytimes.com.tw/2010/new/jan/7/today-fashion3.htm

size กลางและใหญ่จะดูไม่ต่างกันมากค่ะ และเวลาใช้ขึ้นอยู่กับของที่ใส่กระเป๋าค่ะ บางทีก็ดูไม่ค่อยออก
ภาพจาก http://princessvictoriastylo.blogspot.com/2011/12/tods.html

ภาพจาก http://www.thatbagiwant.com/Product_Details.aspx?sno=21D1146

รุ่น G Bag ก็มีหลาย variation ออกมานะคะ เช่น
G Bag Easy Tracolla
ภาพจาก http://www.malleries.com/authentic-tods-g-bag-hobo-taupe-i-98589-s-356.html

G Bag Easy Sagomata
ภาพจาก http://www.thatbagiwant.com/Product_...2*url=faq.aspx

G Bag Secchiello
ภาพจาก http://www.allhandbagfashion.com/201003/tods-g-bag-easy-secchiello-medio-handbag.html

G Bag Messenger
ภาพจาก http://www.allhandbagfashion.com/201003/tods-g-bag-messenger-easy-med-handbag.html

G Bag Bauletto
ภาพจาก http://www.kaboodle.com/reviews/tods--g-bag-new-bauletto-easy-bag--saks.com

ภาพจาก http://bagaholicboy.com/2009/10/celebs-and-bags-41-tods-g-bag-kelly/

G Bag Script
ภาพจาก http://www.malleries.com/tods-g-line-script-bag-in-navy-blue-i-89823-s-2710.html

Tod’s Pashmy
รุ่นนี้ถูกแนะนำให้รู้จักโดยคุณปุ้ย แฟน Tod’s อีกท่านนึงใน SBN ค่ะ คุณปุ้ยถามถึงกระเป๋ารุ่นนี้เลยลองหามาใช้ดู และแล้วก็เกิดติดใจ ซื้อกระจาย ครบไซส์และหลากหลายสี ตั้งแต่หนัง, Nylon, Coated Cotton และ Nubuck ค่ะ
รุ่น Pashmy คือกระเป๋าผ้า Nylon ที่ลื่นๆ ที่เป็นไหมนะคะ จะนิ่มนุ่มมือมากๆ ค่ะ และเป็นกระเป๋าที่มีชองและซิปด้านนอกกระเป๋าเยอะแยะค่ะ เป็นกระเป๋าที่ Function ดีมากๆ ค่ะ ติดใจตรงนี้แหละค่ะ มาดูรุ่นต่างๆ ของตระกูล Pashmy กันดีกว่าค่ะ

ภาพจาก http://buybyeshopaholic.blogspot.com...tto-medio.html

Pashmy Luna
ฮิตที่สุดค่ะ มีหลายไซส์ค่ะ Mini, Piccolo, Media, Grande มีหนังและผ้าค่ะ

Pashmy Luna Mini
ภาพจาก http://tote-to-toe.blogspot.com/2010/06/tods-luna-mini.html

Pashmy Luna Piccolo
ภาพจาก http://www.worthpoint.com/worthopedi...-luna-74127228

Pashmy Luna Media
ภาพจาก http://www.pursepage.com/celebrity-p...lon-purse.html

ภาพจาก http://celebags.blogspot.com/2009/09/renee-zellweger-tods-pashmy-muna-hobo.html

Pashmy Luna Grande
ภาพจาก http://shoppeforshop.blogspot.com/2012/05/tods-pashmy-three-zippers-media.html

Pashmy Messenger
ภาพจาก http://www.fyshgroup.com/ch/NewsView.asp?ID=4

Pashmy Tracolla
ภาพจาก http://www.polyvore.com/cgi/img-thing?.out=jpg&size=l&tid=13745131

Pashmy Hobo
ภาพจาก http://www.cooldesignerhandbags.com/...ca-hobo-media/

Pashmy Bauletto
ภาพจาก http://clicknclutch.blogspot.com/2011/12/tods-pashmy-bauletto-media.html

Pashmy D Bag
ภาพจาก http://goodbargains-singapore.blogspot.com/2011/10/tods-pashmy-d-bag-s799-ready-stock-in.html

Pashmy Mommy
ภาพจาก http://thebaghagdiaries.com/travelin...-a-diaper-bag/

ไว้วันหน้าจะมาพูดถึงรุ่นอื่นๆ บ้างนะคะ วันนี้เอาเท่านี้ก่อนน้าา

[Eddy]

Video: Tod's and La Scala join forces
'In Italy people still tried to be elegant at the weekend: a suit, tie and white shirt, especially on Sunday. In America it was completely different. The weekend was like a religion there, and people tried to be very, very relaxed. Sometimes it was not very good taste! But my idea was, why not make more relaxed shoes that are also elegant and chic?'
At first he wanted to launch his own collection of shoes and bags rather than join the family business, but he was too young to be taken seriously: 'Nobody would listen to a young guy without a driving licence!' Instead he went to study law in Bologna, and then, when he dropped out at the age of 24, his father agreed to back him. Della Valle called his company J P Tod's, a name he is often said to have lifted from an American phone book, but he dismisses this as folklore. 'I don't know who said that!' he says. 'The idea was a name that is short, charming and easy to read and pronounce in the same way worldwide.'
This kind of global thinking is commonplace now, but in 1978 it showed huge ambition. 'It was a dream,' he says, with a shrug. 'When you are young you have many movies in your mind.'
The first Tod's product was a hand-made casual loafer in the softest leather, based on a badly made driving shoe Della Valle had found in New York. 'Before, shoes were very stiff, without any comfort, and we tried to change that completely. We tried to consider shoes like a pair of gloves. We think all the time about light, soft, comfortable, useful - something you can wear all day.'
Named after the 133 rubber pebbles - gommini - embedded into the sole, the Gommino loafer is astonishingly comfortable, quietly stylish and one of the company's best-sellers. (Although the label now reads simply Tod's: the initials were dropped when customers began to think J P was a real person.) With the marketing savvy he had picked up on his travels, Della Valle used images of old Hollywood stars such as Audrey Hepburn and Cary Grant in his advertising to make it seem as if Tod's had been around forever, and encouraged sales at home by giving shoes to Italian celebrities.
Tod's has grown steadily ever since, and is a major player in the luxury market. Della Valle now owns a sports line, Hogan, and the ready-to-wear clothing label Fay. He is the biggest investor in Saks Fifth Avenue, the store his father once supplied, and has shares in other Italian companies, from Ferrari to the scooter maker Piaggio. He also sits on the board of LVMH, the vast luxury conglomerate owned by his friend Bernard Arnault, though he has no plans to expand his own group of companies further, saying he'd rather concentrate on Tod's.
The company has continued to grow during the recession, he says, because people with money want to spend it better. They want luxury, but they also want products that are practical for everyday use and that will last longer than one season. And once a new classic is established in the Tod's range it tends to stay, so it doesn't date as many fashion buys do. Princess Diana was a big fan of the D Bag, for instance, and now her son's wife, the Duchess of Cambridge, looks equally chic carrying the same bag. 'When we make a product we take our time,' explains Della Valle. 'We want to do products that remain in our story forever.'
We have met to discuss the new Signature line, which sees the debut of a Tod's monogram - a raised pattern stamped into the leather and based, of course, on the distinctive gommino studs. It's taken five years to get right, he says, but now they have something that is instantly recognisable but also subtle without the kind of ostentatious logos that Tod's customers would find vulgar.
The Signature bags are designed to be fashion-forward - the patent-leather versions are particularly striking - but also strong, light and roomy enough to use as an overnight bag, or to carry a laptop. 'Our customers are very busy, they travel a lot,' says Della Valle. 'They want to have the best, but also to be able to use it in their daily life.'
In recent years Tod's has moved away from celebrities, instead photographing stylish Italians in their homes to help sell the idea of Italian style. But to launch the Signature line they've chosen to work with the actress Anne Hathaway, who plays Catwoman in the next Batman film. 'She is a perfect ambassador for the modern taste and lifestyle,' explains Della Valle. 'She's elegant, a star, but also very human.'
For all its gloss, Tod's remains a family firm. Della Valle's grandfather's tools are still displayed outside the design workshop, and Barbara Pistilli, the architect who designed the factory and oversaw the restoration of the 11-bedroom former monastery that is Della Valle's main home, also happens to be Diego's wife. His brother Andrea is vice-chairman of the company. On the day I visit, their father also drops by, a dapper figure in shorts and loafers who still tests every new shoe design for comfort and quality before approving it for production. Della Valle's oldest son, Emanuele, is also in the office, and chats with me for a while about the recent funeral of his close friend, Dennis Hopper, attended by a priest, an Indian shaman and Hell's Angels. He also praises Anne Hathaway: 'She's a really great girl. She's in fantastic shape at the moment, to play Catwoman.' Through his own creative agency, he oversees all of Tod's advertising, including a short film by Hopper a couple of years ago, and the Hathaway ads.
The company has never strayed far from what Della Valle calls its DNA: high-quality leather goods, expertly made in Italy. He feels that, in recent years, the country's reputation has been tarnished, and he's been outspoken in its defence. He has publicly criticised Silvio Berlusconi at times, and when Giorgio Armani recently criticised Prada for its public share offering, Della Valle - who is not a Prada shareholder - was the first to speak out, implying that Armani was out of touch. 'I suggested to him that we are Italian, and we need to be very close,' he says now, more diplomatically. 'It's important that we give a strong, successful image of our country.'
Putting his money where his mouth is, last year Della Valle committed €25 million (£21.5 million) to restore the Colosseum in Rome, Italy's most popular tourist attraction, though some critics suggested he had bought it to cover with company advertising.
Italians love controversy, he says, but now the full details have emerged, most people seem happy. 'We're not asking for anything in return. We want no sponsorship, no advertising, zero.' He's simply proud to be able to preserve a part of Italy's history, and hopes that others will do the same for other important sites, such as Pompeii. 'I think for entrepreneurs like me, with strong and lucky global companies, now is the moment to give something back.'
In 2002 Della Valle and his brother bought the ailing Fiorentino football club, with a view to reviving its fortunes. 'It's a hobby,' he says, adding that they want to build a team with soul whose players will be good role models for young fans. He doesn't get to see them play as often as he'd like. Weekends are often spent travelling, particularly if he's flying to Asia, where Tod's is expanding rapidly. And when he is at home he has another, more important team to follow. His youngest son, 14-year-old Filipo, plays for their village team, and Della Valle likes to get on the bus with the other parents to cheer them on. 'Football opens many doors between parents and children,' he says. 'It's very good for him.' It's why he has chosen to raise Filippo in the village where he himself grew up: 'I want him to have a simple life, a normal life.'
It is odd, I say, for a man with homes in Capri, Paris, New York, Miami and Milan, plus his own helicopter and jet, to talk about the simple life. These things are fun, he replies, but not important. 'A lot of it is for my work. I have business around the world, so if I want to live in this village sometimes I have to take the helicopter to the airport, take the jet and maybe go directly to Tokyo. But that's a very pressured life.'
He loves Japanese food and American junk food, but says nothing beats a plate of pasta with home-grown tomatoes, followed by roast chicken, with his family. He envies his father, working when he wants and going to the beach whenever he likes. After our meeting, Della Valle heads to Milan, then to Capri for the weekend. His yacht is moored there - The Marlin, once owned by his hero, JFK.
'I want to have a week in one place, doing nothing,' he says wistfully. 'Real luxury isn't flying by private jet. It is not needing the jet at all.'